ในยุคนี้คงยากที่จะปฏิเสธว่าโทรศัพท์มือถือไม่มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์ เพราะคนส่วนใหญ่ทุกเพศทุกวัยต่างก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสาร และมือถือสมัยนี้มีความสามารถมากกว่าการรับสายและโทรออก แต่ยังส่งภาพและเสียง จะไลฟ์สดคุยกัน ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ได้ แม้ว่าจะอยู่ไกลคนละสุดขอบโลก
โนเกีย บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลกจากประเทศฟินแลนด์ แม้ปัจจุบันจะเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ก็อยากจะให้ผู้ใช้วางมือถือลงเสียบ้าง ออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาความยาว 90 วินาทีในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ โดยโนเกียไม่ได้ขายเทคโนโลยี แต่อยากให้ผู้ใช้ปิดมือถือลง แล้วใช้เวลากับคนที่รักและห่วงใย เพราะนั่นคือของขวัญที่คนที่เรารักต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความสุขเช่นนี้
โฆษณาชุด Be the Gift ของโนเกียเรื่องนี้ กำกับโดย Justin Chadwick ผู้กำกับภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ด เนื้อเรื่องเล่าด้วยภาพและเพลงเพราะอบอุ่น ถึงเรื่องราวของหลานชายวัยรุ่นและคุณยาย ทุกวันหลานชายจะคุยกับคุณยายผ่านมือถือ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร หลานชายมักจะนึกถึงคุณยาย ส่งภาพ ส่งวิดีโอ และพูดคุยผ่านโปรแกรมแชทออนไลน์กับคุณยายอยู่เสมอ ฝั่งคุณยายที่ดูเหมือนจะมีความสุขดีแต่ลึกๆในใจ คุณยายก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยว แต่วันหนึ่งในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ คุณยายก็กลับถูกเซอไพรส์ด้วยการมาเยี่ยมของหลานชาย ข้อความท้ายโฆษณาบอกว่า Switch off this Christmas. Give the gift of you. “ปิดมือถือช่วงคริสต์มาส คุณคือของขวัญที่ดีที่สุด” ซึ่งภาพสุดท้าย คือคุณยายและหลานชายพูดคุยกันอย่างมีความสุขบนโซฟาตัวเดียวกัน ไม่ใช่บนมือถืออีกต่อไป เป็นภาพที่แสนอบอุ่นที่หลายครอบครัวอยากให้ลูกหลานของตัวเองเป็นอย่างนั้น
สำหรับหลายคนที่ใช้มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารกับครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ จนบางคนรู้สึกสบายใจที่จะคุยผ่านเทคโนโลยีมากกว่าพูดคุยกันตรงหน้าไปแล้ว ลองวางมือถือกันดูบ้าง พูดคุยและใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะคุณพ่อคุณแม่ สามีหรือภรรยา ลูกๆ และเพื่อนๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่แม้ทุกวันนี้พวกท่านจะใช้มือถือหรือสมาร์ทโฟนสื่อสารกับลูกหลานรุ่นใหม่ได้แล้ว การสื่อสารด้วยวิถีเดิมคือการพบปะพูดคุยกันแบบตัวจริงเสียงจริง ยังเป็นสิ่งที่พวกท่านต้องการ เพราะแม้ว่ามือถือหรือสมาร์ทโฟนจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถสร้างความสุข ความอบอุ่นใจ เหมือนได้อยู่ด้วยกันตรงหน้าแน่นอน
ใช้มือถืออย่างมีสติ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ใช้อย่างพอดี สร้างสมดุลในความสัมพันธ์ ทั้งในโลกเสมือนจริงและโลกความเป็นจริง อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าใช้เทคโนโลยี ไม่ใช่เทคโนโลยีใช้เรา
อ้างอิง : Campaign Live Uk, The Stable
