Bully A Plant: ดูแลต้นไม้ด้วยคำพูดแย่ๆ ผลที่ได้ทำเด็กๆ อึ้งทั้งโรงเรียน

แกมันงี่เง่า! ยี..หน้าไม่อาย! ยัยอ้วนตุ๊ต๊ะ! ถ้าเด็กๆ ถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งหรือรังแกด้วยคำพูดรุนแรงเหล่านี้ทุกวันที่ไปโรงเรียน เด็กจะรู้สึกอย่างไร และเด็กจะเติบโตอย่างไร?

Bully คือการกลั่นแกล้ง ตั้งแต่การใช้คำพูดเสียดสี ถากถาง ด่าทอ ไปจนถึงการทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน บางครั้งผู้ใหญ่มองเห็นเป็นเพียงการล้อเล่นกันตามปกติของวัยเด็ก แต่สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ปัญหาสังคมในอนาคต หรืออาจเกิดความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดได้

อิเกีย  แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของโลก เชื่อว่าความสุขสามารถส่งต่อกันได้จากการปฏิบัติต่อกัน อิเกียในประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ร่วมกับเอเยนซี่โฆษณา Memac Ogilvy สร้างสรรค์แคมเปญ Bully A Plant: Say No To Bullying เพื่อร่วมรณรงค์ต่อต้านการกลั่นแกล้งรุนแรงในวัน Anti-Bullying Day ที่มีขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งได้จัดทำเป็นลักษณะของการทดลอง หรือ Experiment ให้เด็กๆ ในโรงเรียนในกรุงดูไบได้เห็นผลลัพธ์ระหว่างการกลั่นแกล้งใช้คำพูดด้านลบกับคำพูดด้านบวก ด้วยวิธีที่แสนง่ายและเด็กๆ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการทดลองได้

โดยอิเกียได้นำต้นไม้ประดับสองต้นที่มีการเจริญเติบโตเท่ากันใส่ไว้ในกล่องพลาสติก ควบคุม แสง น้ำ อุณหภูมิให้เท่ากันทั้งสองต้น ตัวแปรที่แตกต่างกันคือ ต้นที่หนึ่ง – ให้เด็กๆ ทดสองใช้คำพูดรุนแรง ก้าวร้าว เสียดสี ใส่ต้นไม้ต้นนั้น ส่วนต้นที่สอง – ให้เด็กๆ ใช้คำพูดเชิงบวก เช่น วันนี้เธอน่ารักจัง ฉันชอบเสื้อของเธอจัง ขอบคุณ เป็นต้น โดยการทดลองใช้เวลา  30 วัน

ผลลัพธ์ของการทดลอง ไม่ต้องอธิบายอะไร เด็กๆ ก็สามารถเข้าใจถึงผลกระทบของการใช้คำพูดรุนแรงได้จากสภาพของต้นไม้ต้นที่หนึ่ง เพราะสภาพของมัน ถ้าเป็นคนก็คือเหี่ยวเฉา ดูไม่มีชีวิต แตกต่างกับต้นไม้ต้นที่สองที่ได้รับแต่คำพูดด้านดีที่เติบโตสวยงาม หากเป็นคนก็เป็นคนที่แข็งแรงมีสุขภาพจิตที่ดี  ผลการทดลองทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่า คำพูดของตนเองมีผลต่อผู้อื่นอย่างไร และพวกเขาก็จะเลือกใช้คำพูดในด้านดีกับเพื่อนๆ

แม้ว่าการทดลองผลของ Bullying ด้วยต้นไม้ จะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ในความจริง คลื่นเสียงมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ เวลาเราฟังเพลงเราก็มีความสบายใจ ผ่อนคลาย แม้แต่การบำบัดทางจิตก็ใช้ กลิ่น สี เสียงในการบำบัดรักษา การทดลองนี้ก็ใช้หลักการเดียวกันนั่นเอง ถ้าสภาพแวดล้อมดี ไม่ว่าคนหรือหรือพืช ก็ได้รับพลังด้านดีไปด้วย

การทดลองง่ายๆ แบบนี้ ทำให้เรื่องที่เด็กๆ เข้าใจยาก เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะเห็นผลได้จริง สัมผัสได้จริง เมื่อเด็กได้เรียนรู้ การเอาเปรียบรังแกกันก็จะไม่เกิดขึ้น โรงเรียนก็จะเป็นพื้นที่แห่งความรัก ความปลอดภัย ที่ทำให้เด็กมีความสุข และหล่อหลอมให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมต่อไป

อ้างอิง: Creativity-Online,  Global News

จงจิตร สมิทธิ์

Head of Creative บริษัท Far East Fame Line DDB มีความเชื่อว่างานโฆษณาที่ดีใช้แค่ Creativity ไม่พอ แต่ต้องใช้ Humankind Creativity ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสังคมและโลกไปในทางที่ดีขึ้นด้วย

See all articles