ไม่เจอกับตัว..ไม่มีทางเข้าใจ! จำลองประสบการณ์ถูกรังแกในโรงเรียนผ่านแว่น VR

บ่อยครั้งที่เราได้ยินเรื่องแสนสลดจากเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นภายในโรงเรียน โดยเฉพาะจากกรณี school bullying ซึ่งก็คือการถูกรังแก กลั่นแกล้ง ดูถูก สบประมาท เหยียดหยาม ขมขู่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์อันธพาลที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน และเชื่อกันว่านำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตายของเด็กๆ หรือกลายเป็นเหตุการยิงกันในโรงเรียนในที่สุด

เราได้ยินข่าวจากเหตุการณ์ประเภทนี้อยู่เนืองๆ แต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไขได้โดยเร็ว เราต้องแก้กันที่ทั้งภายในโรงเรียนด้วยวิธีการสอนที่ไม่แบ่งชนชั้น สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และแก้กันภายนอกโรงเรียนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างความตระหนักและตื่นตัวในเรื่องนี้

เช่นเดียวกันกับประเทศที่ศิวิไลซ์อื่นๆ ประเทศอย่างสวีเดนซึ่งมีพื้นฐานทางสังคมและการศึกษาที่ดีก็ยังหนีไม่พ้นปัญหานี้ จากสถิติพบว่า..แต่ละปีจะมีเด็กๆ ที่เคยเจอเหตุการณ์ bully ในโรงเรียนอย่างน้อย 60,000 คนต่อปี เนื่องจากเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่จะไม่เจอกับสังคมผู้ใหญ่ การสื่อสารให้ผู้ใหญ่รู้น่าจะมีวิธีการอื่นๆ นอกจากใช้วิธีรณรงค์แบบเดิม โชคดีที่ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีหลากหลายให้เลือกใช้ หนึ่งในนั้นคือเทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality ผ่านอุปกรณ์ครอบหัวจำลองสถานการณ์เสมือนจริงได้ และแน่นอนว่าประสบการณ์ bully ก็สามารถจำลองให้เห็นได้เช่นเดียวกัน

แคมเปญนี้เป็นขององค์กร The Swedish Educational Broadcasting Company (UR) ที่นำเสนอด้านสื่อที่เกี่ยวกับการศึกษาของสวีเดน แคมเปญนี้เริ่มต้นด้วยการเชิญเหล่าผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดหรือที่เรียกกันว่า Influencers มาเป็นอาสาสมัครทดสอบสวมแว่น VR เสมือนจำลองอยู่ในห้องเรียนที่ตัวเราเองกำลังถูก bully โดยเนื้อเรื่องมาจากเรื่องจริงของเด็กอายุ 16 ปีที่เคยถูกกระทำเหมือนในวิดีโอ และสถานที่ถ่ายทำก็เป็นสถานที่จริงทั้งหมด

เมื่อใช้ผู้ทรงอิทธิพลเป็นกระบอกเสียง คนก็เริ่มอิน เพราะหลายๆ เหตุการณ์เสมือนย้อนประสบการณ์ไปในวัยเด็กอีกครั้ง และการเปลี่ยนประสบการณ์จำลองให้เสมือนเป็นประสบการณ์จริงก็ทำให้สังคมตระหนักว่า ประเด็นเรื่องนี้ไม่สมควรที่จะถูกมองข้าม นอกจากนั้นยังเปิดให้คนทั่วไปได้มาลองประสบการณ์จริงๆ ผ่าน Facebook เช่นกัน หากมีแว่น VR ตามคลิปนี้

Mobbning i 360

Blundar du för mobbning? Då behöver du se den här videon. Här får du uppleva hur verkligheten ser ut för alla de 55 000 som dagligen utsätts för mobbning och kränkningar i skolan. #dethandlaromdig

โพสต์โดย UR บน 5 เมษายน 2016

 

เมื่อแคมเปญนี้ปล่อยออกไปแค่ไม่กี่วัน ก็ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศภายใน 4 วัน โดย 1 ใน 5 ของคนสวีเดนรับรู้ประเด็นสังคมนี้ โปรเจ็กต์นี้ยังถูกต่อยอดไปในสังคมการศึกษาของประเทษสวีเดนอีกด้วย เหล่าครูที่เห็นโปรเจ็กต์นี้ก็ชงเรื่องไปว่าอยากให้โปรเจ็กต์นี้ถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรการศึกษาจริงๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้เห็นและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดนี้ความคิดสร้างสรรค์เมื่อผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ของสังคมได้เป็นอย่างดี

Kittipat M

มีอาชีพเป็นนักวางกลยุทธ์ด้านดิจิตอลให้เอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่ง ชอบศึกษาความเป็นไปและปรากฏการณ์ใหม่ๆของโลกสังคมออนไลน์ ชีวิตส่วนตัวมักปิดมือถือออกเดินทางท่องโลกกว้าง เพราะมีความเชื่อว่าชีวิตไม่สามารถอยู่ได้ด้วยออนไลน์เพียงอย่างเดียว รู้จักเพิ่มเติมได้ที่ www.kittipatm.com

See all articles