ในช่วงหนึ่งนักทำหนังนิยมใช้เรื่องราวของการทำอาหาร มาเป็นพื้นหลังสำหรับบอกเล่าเรื่องราว สะท้อนพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น Ratatouille, Like Water For Chocolate, Eat Drink Man Woman, The God of Cookery (คนเล็กกุ๊กเทวดา), The Cook, the Thief, His Wife and Her Lover หรือแม้แต่ละครทีวีดังของเกาหลี อย่าง Dae Jang Geum (แดจังกึม) ฯลฯ ไม่ใช่เพียงฉากการทำอาหารที่ดึงดูดความสนใจเท่านั้น แต่เพราะอาหารมีผลทางด้านจิตวิทยาของผู้ชม ทั้งในแง่ความคิด อารมณ์ และจินตนาการ ดังความเชื่อที่ว่า อาหารดีๆ สักมื้อจะเปลี่ยนความขุ่นข้องหมองใจให้กลายเป็นรอยยิ้ม คงจะคล้ายกันกับศิลปินสตรีทอาร์ทชาวอิตาเลี่ยนผู้นี้ CIBO ที่นำเสนอภาพงานของตนด้วยรูปของอาหาร
CIBO ในภาษาอังกฤษก็คือคำว่าอาหารนั่นเอง โปรเจ็กต์ของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2008 จากนั้นเป็นเวลานับสิบปี ที่เขาเดินทางตระเวนไปทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพื่อเขียนภาพอาหารบนพื้นที่สาธารณะ และไม่ใช่แค่เขียนภาพบนผนังอย่างธรรมดา จุดสำคัญก็คือเขาเลือกที่จะเขียนภาพอาร์ตสไตล์ของตนทับลงบนการขีดเขียนยึกยือของพวกมือบอน และพวกที่ชอบประกาศแนวคิดแห่งความเกลียดชังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหยาบคาย, ลายเส้นสกปรก, หรือสัญลักษณ์แห่งความรุนแรง เช่น เครื่องหมายสวัสดิกะของลัทธินาซีใหม่ ที่แพร่กระจายไปทั่วอิตาลี นับเป็นแนวคิดในการทำงานที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก คือไม่ปล่อยให้สัญลักษณ์ที่ทำลายความรู้สึกผู้คน หรือสร้างบรรยากาศแห่งความไม่เป็นมิตรต่อกันให้คงอยู่ในสังคม แล้วกลบมันทิ้งซะ ด้วยรูปแบบของอาหารนานาชนิด
นั่นอาจเป็นเพราะตัวศิลปินเองมีความชอบในการทำอาหาร และความรักในวัฒนธรรมด้านอาหารของอิตาลี บ้านเกิด แต่จะด้วยอะไรก็ตาม นี่คือการแบ่งปันความสุขคืนให้กับสังคมด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ ไม่ใช่การล้อเลียนเสียดสี ตัวเขาเองตั้งความหวังด้วยว่า วิธีการนี้จะเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนที่ชิงชังต่อกันลงได้บ้างไม่มากก็น้อย และบางทีอาจมีศิลปินคนอื่นๆ ที่เห็นดีเห็นงามกับวิธีการของเขาพากันช่วยกันลบภาพแห่งความเกลียดชังทั้งหลายในพื้นที่สาธารณะให้ลดลงไปอีก สำหรับวิธีการสร้างงานของ CIBO จึงไม่ใช่เพียงเขียนภาพสตรีทอาร์ตธรรมดา แต่เป็นพฤติกรรมเชิงสัญลักษณ์ ที่อยากให้ผู้คนได้รับสิ่งดีๆ กลับบ้าน คล้ายดังประโยคว่า ‘Good Food is Good Mood’ มาหยุดความรุนแรงด้วยรสชาติแห่งความอร่อยกันจะดีกว่า
อ้างอิง: patreon.com, Facebook: cibo, instagram.com
