Clothing the Loop: คิดก่อนช้อป อุตสาหกรรมแฟชั่นเสื้อผ้าสร้างมลพิษมหาศาล

เป็นเรื่องน่าตกใจที่การเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่หรือตามแฟชั่นของคนเรากำลังสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม และยังเป็นตัวการสำคัญหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนด้วย เพราะกระบวนการผลิตแปรรูปวัสดุเพื่อนำมาเป็นใยผ้า, การฟอกหนังสัตว์, ไนลอน, โพลีเอสเตอร์ ทั้งหมดนั้นเผาผลาญพลังงานสร้างสภาวะเรือนกระจกมากมายมหาศาลในแต่ละปี ส่วนในขั้นตอนอื่นๆ เช่นการทำความสะอาดเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ก็ปล่อยสารเคมีและไมโครพลาสติกเจือปนลงในน้ำทำลายระบบนิเวศไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้เราอาจไม่เหลือน้ำสะอาดหรืออาหารปลอดมลพิษในการบริโภค ในแต่ละปีไม้ 17 ล้านต้นถูกสังเวยเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ ซึ่งจะเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่าในอีก 20 ปีข้างหน้า นี่เป็นโปรเจ็กต์อาร์ตเพื่อเตือนภัยให้รู้ถึงเหตุการณ์วิกฤตินี้ Clothing The Loop

Laura François นักกิจกรรมและนักออกแบบสังคมผู้สนใจปัญหาอุตสาหกรรมแฟชั่นกับสิ่งแวดล้อมร่วมมือกับศิลปิน Vong Wong ที่มีแนวคิดในทางเดียวกันสร้างผลงานมาแล้วมากมาย และเราเคยนำมาเสนอไปบ้างแล้วใน ภาพถ่ายอิเล็กทรอนิกส์สุดแนว รณรงค์ช่วยกันลดขยะที่กำลังล้นโลก พวกเขาร่วมกันสร้างงานศิลปะจัดแสดงอีกชิ้นหนึ่งที่สะท้อนปัญหาวงจรแห่งเสื้อผ้าและการบริโภคแฟชั่น ด้วยการลงพื้นที่เข้าไปในโรงงานผลิตเสื้อผ้าร้างแห่งหนึ่งในกัมพูชาที่ปิดตัวไปก่อนหน้านั้นนับสิบปี และมีเศษผ้าที่ถูกทิ้งไว้ในโรงงานมหาศาล นำเศษเสื้อผ้าที่ผลิตอย่างล้นเหลือเหล่านั้นมาจัดรูปทรงใหม่ แสดงให้โลกรู้ถึงปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม โดยออกแบบเป็นประติมากรรมร่วมสมัยจับต้องได้ด้วยมุมมองของศิลปิน Vong Wong  สร้างภาพอันน่าสนใจ ล้อเลียนการบริโภคเกินตัวของมนุษย์จนก่อตัวเป็นรูปของธรรมชาติในสามรูปแบบคือน้ำตกใหญ่ที่ไหลท่วมท้นโลก, ต้นไม้ที่เหลือแต่กิ่งก้านไร้ชีวิตเพราะพื้นที่ป่าไม้ที่นับวันจะหมดไป และ พายุทอร์นาโดขนาดมหึมา

นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และอย่าคิดว่าเพียงแค่เราส่งเสื้อผ้าเหลือใช้ในไปรีไซเคิลหรือบริจาคก็จะแก้ปัญหาได้ เพราะทั้งเทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนี้ยังดีไม่พอที่แปลงเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมฝ้ายและโพลีเอสเตอร์กลับมาใช้ใหม่อย่างมีคุณภาพ ส่วนการบริจาคแม้จะดูเข้าท่า แต่ทว่าเสื้อผ้ามือสองสภาพดีจำนวนมากกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของธุรกิจเสื้อผ้าในท้องถิ่น สินค้าแฟชั่นเป็นกระแสที่ไม่ยืดยาว มาเร็วไปเร็วซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่ผู้ผลิตจะขายได้ สินค้าค้างสต็อกก็จะกลายเป็นต้นทุนสำหรับสินค้าใหม่ต่อไป และเราก็จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อตามให้ทันแฟชั่นเหล่านั้น นี่คือวงจรแฟชั่นและปัญหาที่สังคมโลกกำลังเผชิญ ทางออกหนึ่งที่พอจะบรรเทาปัญหาลงก็คือช่วยกันชะลอการบริโภค เลิกเห่อแฟชั่นคิดให้ถี่ถ้วนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าช้อปของใหม่ กลับไปเปิดตู้ดูเสื้อผ้าที่มีอยู่รักเขาและใช้เขาให้คุ้มค่าที่สุดและไม่ใช่เพื่อใครเพื่อตัวเราเองและโลกที่เรารัก

อ้างอิง: clothingtheloop.orgvonwong.comlaurafrancois.com

วรัญญู อุดมกาญจนานนท์

Art may not be the only way to brighten the world, but it is essential to create a beautiful life. รักงานสร้างสรรค์อิสระ...งานเขียนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวหนังสือคือความคิดที่เชื่อมโลกกับเราไว้ด้วยกัน

See all articles