ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้โลกของเรากำลังถูกขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มและคอนเทนต์ออนไลน์อยู่ตลอดเวลา เทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราก็มาจากสื่อออนไลน์แทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตติดกระแส หรือวลีเด็ดอย่าง ‘แกเป็นใคร๊ จับฉันมาทำไม๊’ ที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ใน TikTok ตอนนี้ หรือแม้แต่บางคนจากที่เคยเป็นคนธรรมดา ๆ ก็อาจแจ้งเกิดเป็นดาวเด่นในโลกออนไลน์ได้ภายในชั่วข้ามคืนก็มีให้เห็นกันนับไม่ถ้วน ซึ่งกระแสเหล่านี้เกิดขึ้นจากการขาย ‘คอนเทนต์’ นั่นเอง
ดังนั้นการทำคอนเทนต์จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะใคร ๆ ก็เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้ไม่ยาก แต่โจทย์ที่ยากกว่าคือ จะทำอย่างไรให้คอนเทนต์ของเราโดนใจคนหมู่มาก? บางทีเราอาจจะเคยเห็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือเพจที่ตั้งใจจะสื่อสารเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ อย่างคอนเทนต์ที่มีจุดเน้นเรื่องการช่วยเหลือสังคมหรือสิ่งแวดล้อม แต่กลับมีผู้ติดตามเพียงน้อยนิดสวนทางกับสาระดี ๆ และความตั้งใจของเจ้าของผลงาน การทำคอนเทนต์ให้เข้าถึงคนส่วนมากจึงยังเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับชาวคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลาย ๆ คน
จากตรงนี้เอง เครือข่ายพลเมืองสร้างสรรค์ Creative Citizen สนับสนุนโดย สสส. จึงได้จัดกิจกรรมเวิร์กชอป ‘Creative Citizen Academy รุ่นที่ 3’ เมื่อวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่เป็นองค์กรเพื่อสังคม มูลนิธิ หรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานด้านสังคม สุขภาวะ และสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนที่เข้าร่วมได้เข้าใจพื้นฐานของการสร้างสื่อคอนเทนต์ออนไลน์ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนสังคมอย่างสร้างสรรค์ไปด้วยกัน
สำหรับครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 14 คนจาก 20 องค์กร โดยภายในงานทุกคนจะได้เข้าคลาสเพื่อทำความเข้าใจกับหลักพื้นฐานของการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมก็จะได้ลองเขียนบทความเพื่อนำไปลงในเว็บไซต์ของตัวเอง รวมถึงได้เรียนรู้การสร้างและออกแบบคอนเทนต์ของตัวเองด้วยการใช้ Canva ต่อมาก็จะเป็นพาร์ทที่ให้ทุกคนได้ลองครีเอทสื่อวีดีโออย่าง Reels และ TikTok กันแบบสนุก ๆ ตบท้ายด้วยกิจกรรมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์สุด exclusive กับคอนเทนครีเอเตอร์จากเพจ Environman และเทใจ .com
เรียกได้ว่าเป็น 3 วันที่อัดแน่นไปด้วยความรู้และสนุกสนานมาก ๆ สำหรับเวิร์คชอป Creative Citizen Academy ผู้เข้าร่วมหลายคนที่ก่อนหน้านี้อาจจะยังไม่เข้าใจหลักการทำคอนเทนต์เลย หรืออาจจะยังไม่มีโอกาสลองครีเอทคอนเทนต์อย่างจริงจัง ก็ได้มาเรียนรู้ใหม่ไปด้วยกัน แต่ความปังยังไม่หมดแค่นั้นเพราะหลังจบเวิร์กชอป ทางทีมงาน Creative Citizen และวิทยากร ยังช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาผู้เข้าร่วมต่อไปอีกประมาณ 2 เดือน ทำให้ทุกคนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้เพื่อพัฒนาสื่อของค์กรให้น่าสนใจมากขึ้นพร้อมได้ไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมต่อไปได้อีก
เวิร์กชอปในครั้งนี้จบลงไปแล้ว สำหรับใครที่สนใจเวิร์กชอปในรอบหน้าและไม่อยากพลาดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ สามารถติดตามต่อได้ที่ www.facebook.com/CreativeCitizen
