นี่คือปัญหาโลกแตกที่ถกเถียงกันไม่รู้จักจบเพราะระบบธุรกิจจำเป็นต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้า แล้วก็จำเป็นต้องพึ่งพาการบริโภคของประชาชนเป็นกลไกสำคัญจนเกิดเป็นลัทธิบริโภคนิยม ในทางตรงข้ามสังคมบริโภคก็นำมาซึ่งผลกระทบด้านลบด้วยอย่างยากจะปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็น ขยะล้นโลก, โลกร้อน , การยึดติดวัตถุ หรือแม้กระทั่งความเสื่อมทางศีลธรรม ซึ่งเห็นได้จากสิ่งยั่วยุให้บริโภคในรูปของสื่อโฆษณามากมายในชีวิตประจำวัน จนบางทีเรารู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อของระบบที่ไม่มีทางเลือก เหมือนเป็นการยัดเยียดให้เสพสื่อด้วยวิธีการแยบยลผ่านพรีเซนเตอร์สวยหล่อ, ป้ายโฆษณาเท่สุดแนว ซึ่งเมื่อเห็นบ่อยๆ ก็เกิดความนิยมชมชอบสินค้านั้นไปเองตามหลักจิตวิทยา และนี่อาจเป็นวิธีการตอบโต้จากคนที่เห็นต่างและตระหนักถึงพิษภัยของการเร่งเร้าให้เกิดการบริโภคเกินจำเป็นโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม
ศิลปินชาวอิตาเลี่ยนใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า Hogre ได้ขโมยป้ายโฆษณาบนท้องถนนแล้วจัดการดัดแปลงเปลี่ยนรูปเหล่านั้นเสียใหม่สะท้อนปัญหาจากวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมบริโภคได้อย่างแสบสัน นับเป็นทางเลือกให้ผู้คนได้เห็นสื่อโฆษณาที่แปลกออกไปบ้างด้วยสไตล์ล้อเลียนเสียดสีสังคมของเขา จับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสังคมหลากหลาย ทั้งด้านการผลิตสินค้าที่ไร้คุณภาพ, การกดขี่ทางเพศ, ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน, การถูกปิดบังจากสื่อจนขาดเสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ทั้งหมดถูกสาดใส่ลงบนป้ายบิลบอร์ดทั่วเมืองใหญ่ในอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นตามป้ายรถเมล์, กำแพงริมทางเท้า, ป้ายโฆษณาข้างตึก ฯลฯ งานของเขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่มีแนวคิดตรงกัน และรู้สึกตัวว่ากำลังโดนคุกคามโดยสื่อโฆษณาจากบรรดาบริษัททั้งหลายที่มุ่งแต่จะขายสินค้า
แต่ก็นั่นแหละ ความบ้าบิ่นและกล้าแสดงออกของเขาก็ใช่จะหลุดรอดจากกฎหมายไปได้ เพราะการกระทำดังกล่าวคงไม่ถูกต้องนักที่จะไปทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นอีกทั้งภาพเขียนหลายชิ้นที่เขาวิจารณ์สังคมเป็นการท้าทายความคิด ความเชื่อทางศาสนาด้วย ล่าสุด Hogre โดนฟ้องดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 5,000 ยูโร และอาจมีโทษจำคุก 2 ปี จากผู้ไม่สบอารมณ์กับการล้อเลียนศาสนา ซึ่งเขาก็ยินดีจะสู้คดีโดยมีความหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า การแสดงความเห็นของเขาในที่สาธารณะนั้นได้ชี้ให้เห็นปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
อ้างอิง : ufunk.net ; hyperallergic.com ; Hogre