Street Art 2.0 คือคอนเซ็ปต์ในการสร้างงานศิลปะในที่สาธารณะ เน้นการกระตุ้นให้ผู้คนได้คิดและมีส่วนร่วมกับผลงาน โดยใช้รูปแบบที่ไม่เป็นพิษภัยต่อสังคม มีทั้งการถ่ายภาพคนบนท้องถนน การยิงภาพจากเครื่องฉายแสงบนต้นไม้ รวมถึงการเขียนสีบนผนังอาคารด้วยประโยคเตือนใจต่างๆ โดย Philippe Echaroux ศิลปิน นักถ่ายภาพ และนักสร้างสรรค์ด้านสิ่งแวดล้อมชาวฝรั่งเศส งานนี้เขากลับมาพร้อมกับผลงานชิ้นใหม่ที่จะประกาศให้โลกรู้ถึงสภาวะอากาศแปรปรวน หรือภาวะโลกร้อน ในชื่อผลงานที่ว่า The Ice Scream
เรื่องโลกร้อนเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างรับรู้แต่ก็เหมือนไม่แคร์ว่ามันมีอยู่ ไม่ใช่แค่ประชาชนในระดับล่างๆ แต่ในภาครัฐก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ด้วยเช่นกัน เพราะเงื่อนไขในการลดคาร์บอนในอากาศไม่ใช่เรื่องง่าย สิ้นเปลืองงบประมาณและอาจทำให้เสียความได้เปรียบทางการค้า อย่างที่ทราบกันล่าสุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาเพิ่งจะถอนตัวจากความตกลงเรื่องโลกร้อนที่ปารีส ทว่าปัญหาจริงที่รออยู่ในอนาคตข้างหน้าไม่ใช่เรื่องเงินทอง หรือความได้เปรียบของประเทศใด หากแต่เป็นหายนะทางธรรมชาติที่ทุกคนต้องเผชิญร่วมกัน
Philippe Echaroux จีงคิดโปรเจ็กต์เพื่อแสดงงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้น และเรียกว่าเป็นสตรีทอาร์ตชิ้นแรกที่ไม่ได้อยู่บนท้องถนน แต่ไปอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ภูเขาน้ำแข็งที่ครั้งหนึ่งเคยมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ธารน้ำแข็งขาวโพลนซึ่งแตกต่างจากทุกวันนี้อย่างเห็นได้ชัดจากภาพถ่ายที่เทียบกันในรอบศตวรรษที่ผ่านมา แล้วมันบ่งบอกถึงอะไรถ้าไม่ใช่ความหายนะของระบบนิเวศ การเตือนด้วยภาพศิลปะตามท้องถนนธรรมดาอาจไม่ชัดเจนพอก็เป็นได้ จึงต้องให้ก้อนน้ำแข็งตะโกนบอกด้วยตัวเอง ว่าไม่ไหวแล้วล่ะมนุษย์ พวกเรากำลังจะหมดไปในไม่ช้าแล้ว เผื่อว่าท่านผู้นำประเทศใหญ่ๆ ในโลกจะทบทวนบทบาทแล้วหันมาใส่ใจปัญหานี้อย่างจริงจังสักที
อ้างอิง : Junkhost, Philippe Echaroux, boredpanda