นี่คงเป็นงานอะนิเมชั่นที่กะเทาะเปลือกชีวิตมนุษย์ภายใต้เงาของระบบสังคมบริโภคที่เผ็ดร้อนที่สุดชิ้นหนึ่ง และอาจเจาะลงลึกถึงตัวตนของชีวิตที่ขาดหาย เรากำลังเดินทางไปพร้อมกับเรื่องเล่าผ่านการสร้างงานที่ดูจะทึมทึบและเสียดสีการใช้ชีวิตอยู่บนโลกยุคใหม่ ด้วยงานออกแบบตัวละครที่ดูจริงจังและการลำดับเรื่องอย่างตรงไปตรงมาผ่านบทเพลง “Age of Wake” Starward Projections ซึ่งภาพรวมทั้งหมดของหนังชวนให้นึกถึงมิวสิควิดีโอ The Wall ของ Pink Floyd
Libomir Arsov มีผลงานผ่านโลกของอะนิเมชั่นมาแล้วมากมาย เขาเกิดที่กรุงโซเฟีย เมืองหลวงของปะเทศบัลแกเรียภายใต้บรรยากาศทางการเมืองแบบคอมมิวนิสต์ แล้วอพยพมาอยู่ที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ตั้งแต่อายุ 12 และด้วยความสนใจด้านการเขียนการ์ตูนซึ่งฉายแววมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เติบโตและได้ทำงานที่ตนรักตั้งแต่การออกแบบตัวละคร, ตัดต่อ, กำกับฯ และทำงานในสายงานนี้มาตลอด เริ่มจากด้านทีวีแล้วขยับมาทำหนังในฐานะศิลปินด้านการเล่าเรื่องอย่าง The Book of Life ( 2014), The Peanut Movie (2015), Ice Age: Collision Course (2016) ซึ่งเป็นตัวการันตีความสามารถและความเอาจริงเอาจังกับการทำงานก่อนจะมาถึงเรื่องนี้ In-Shadow: A Modern Odyssey (2017)
แม้ว่างานอาจจะดูเสียดสีอย่างขึงขังสักหน่อย แต่ก็เปิดพื้นที่สำหรับการตีความมากมาย แน่นอนว่าสังคมที่เพาะบ่มเรามาทำให้เรามีกรอบทางความคิดที่ครอบงำไว้ ซึ่งตลอดเวลาของการเติบโตสู่จุดหมายล้วนเต็มไปด้วยการเพาะชุดความคิดให้เราสร้างภาพลักษณ์ทางสังคมเพื่อการยอมรับเพื่อให้เหมือนกับทุกคน เราบริโภคเพื่อความอยู่รอดหรือเพื่อสนองรสนิยมกับความสะดวกสบายกันแน่ ทุกอย่างถูกเร่งเร้าให้เข้าสู่กระบวนการแห่งความเจริญทางวัตถุเพื่อความมั่งมีและการสะสม ความสุขจากเสรีภาพที่ถูกหลอกว่าจะได้รับอย่างเท่าเทียม, ความคาดหวังจากระบบสาธารณะสุขที่ไม่โปร่งใส หรือระบบเทคโนโลยีสื่อสารที่ทำให้เราลืมชีวิตจริง คงเพราะมีเงาบางอย่างชักใยทุกอย่างรอบๆ ตัวเราไว้ และยากจะทำลายออกได้ แม้จะเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยก็ตามในตอนท้ายสุดของหนังก็เหมือนจะไม่ได้ปล่อยให้เราสิ้นหวังไปซะทีเดียว ดูเป็นภาระของชีวิตที่จะต้องพาตัวเองให้หลุดรอดจากเงามืดนั้นให้ได้ เพื่อเรียกร้องให้ทุกชีวิตหวนกลับมามองหาคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตอีกครั้ง
อ้างอิง: inshadow.net, anonymous-news.com, characterdesignreferences.com, imdb.com