Library of Things ห้องสมุดที่เราสามารถยืมได้มากกว่าแค่หนังสือ

เคยไหมที่บางทีเวลาจำเป็นจะต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือบางอย่าง เช่น ไขควงสักอันมาขันน็อตประตูตู้ที่หลวมให้กลับเข้าที่ หรือเต็นท์สักหลังที่นานทีปีหนจะได้เอาไปใช้เดินป่าสักที แล้วเราก็ต้องวิ่งไปเสียตังค์ซื้อของชิ้นนั้นมา ซึ่งพอใช้เสร็จแล้วก็ถูกเก็บเข้ากรุ กว่าจะมีโอกาสได้หยิบออกมาใช้อีกทีก็อีกเป็นปีสองปีนั่นแหละ

ถ้าคุณเคยเจอกับเรื่องแบบนี้มาเหมือนกัน บอกได้เลยว่าคุณไม่ใช่คนเดียว แต่ยังมีอีกหลายคนที่มีประสบการณ์ร่วมกับคุณ อย่างน้อยๆ ก็ยังมี Ryan Dyment และ Lawrence Alvarez สองเพื่อนซี้ชาวแคนาดาที่ร่วมกันทำกิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและเรื่องทางเศรษฐกิจอยู่บ่อยๆ ในคราวนี้ก็เช่นกัน เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวที่คนจำนวนไม่น้อยต้องประสบ ทั้งสองจึงพยายามมองหาวิธีที่จะช่วยให้ผู้คนจัดการกับปัญหาของการเสียเงินซื้อของที่นานๆ ถึงจะมีโอกาสได้ใช้เสียที หรือในอีกกรณี สำหรับบางคนก็ไม่สามารถซื้อหาข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง อย่าง เครื่องตัดหญ้า เครื่องเป่าหิมะมาทำให้บ้านของเขาสวยงามเป็นระเบียบได้ ในระหว่างที่กำลังควานหาคำตอบอยู่นั้นเอง Dyment และ Alvarez ก็เจอเข้ากับเรื่องราวของ Tool Library หรือ ‘ห้องสมุดเครื่องไม้เครื่องมือ’ ที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 1979 ที่ Berkley, California ก่อนจะกระจายขยายสาขาไปกว่า 40 แห่ง ทั่วอเมริกาเหนือ ซึ่ง Dyment และ Alvarez ก็ได้หยิบยืมไอเดียของ Tool Library มาสานต่อเป็น Tool Library แห่งแรกในย่าน Parkdale ของ Toronto และหลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พวกเขาก็ขยายสาขาต่อไปเป็นแห่งที่สองที่สาม พร้อมกันนั้นก็ขยายคอนเซ็ปต์ของ Tool Library ให้กลายเป็น Library of Things ที่มีสิ่งของให้ยืมมากกว่าแค่เครื่องไม้เครื่องมือ แต่ยังมีข้าวของเครื่องใช้ในโอกาสต่างๆ อีกมากมาย เช่น อุปกรณ์กางเต็นท์ ของตกแต่งสำหรับปาร์ตี้ ของเล่นเด็ก ฯลฯ โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้องค์กรของพวกเขาที่ใช้ชื่อว่า The Sharing Depot

“โลกของเราไม่มีทรัพยากรหรือพื้นที่เพียงพอให้เราทุกคนบนโลกสามารถเป็นเจ้าของข้าวของเหล่านี้ทั้งหมดได้” Alvarez เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Library of Things ของพวกเขาไม่เพียงช่วยให้พวกเราได้ประหยัดเงินในการหาซื้อข้าวของพวกนั้นมาใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดทรัพยากรด้วยการให้เครื่องไม้เครื่องมือแต่ละชิ้นที่ถูกผลิตออกมาได้รับการใช้งานจากคนหลายๆ ครัวเรือนได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และที่สำคัญอีกอย่างคือ การ ‘ยืม’ แทนที่จะ ‘ซื้อ’ หามาเป็นของตัวเองคนเดียวเช่นนี้ ยังช่วยให้ภายในบ้านของเราประหยัดพื้นที่ ไม่รกรุงรังไปด้วยข้าวของเกลื่อนกลาดอีกด้วย

ข้าวของส่วนหนึ่งใน Library of Things เป็นสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา และทุกๆ สัปดาห์ ทาง The Sharing Depot ก็จะเปิดให้อาสาสมัครเข้ามาตรวจสภาพการใช้งานและซ่อมแซมของต่างๆ เหล่านั้น ส่วนคนที่จะสามารถเข้ามายืมของจาก Library of Things ได้ ก็ต้องเสียค่าสมาชิกที่มีตั้งแต่ 25-100 เหรียญแคนาดา ต่อหนึ่งปี ซึ่งค่าสมาชิกที่เพิ่มมากขึ้นก็หมายถึงขอบเขตของสิ่งของใน Library of Things ที่คุณสามารถยืมได้

อ่านเรื่องของ The Sharing Depot แล้วบอกได้คำเดียวเลยว่า อยากให้บ้านเรามีบริการอย่างนี้มั่งจัง

อ้างอิง: The Sharing Depot,Facebook: The Sharing Depot, Tree Hugger

ธันยพร ห.

อดีตคนทำงานนิตยสาร (HOW-To, Vaczine, Esquire, Wallpaper* Thailand, art4d) ในยุคสื่อสิ่งพิมพ์รุ่งเรือง ปัจจุบันเป็นนักเขียน/นักแปล/บรรณาธิการอิสระ มีผลงานทั้งบทความศิลปะ งานออกแบบ สุขภาพกาย-ใจ สิ่งแวดล้อม และวรรณกรรม

See all articles