มีสารพัดเหตุผลที่นักปั่นจักรยานควรจะใส่หมวกกันน็อค เรื่องนี้คงไม่ต้องสาธยายกันมากแล้ว แต่ถึงจะรู้กันอยู่แก่ใจ การที่เราต้องพกพาหมวกกันน็อคใบเขื่องไปไหนต่อไหนด้วยทั้งวัน… มันก็เป็นเรื่องน่ารำคาญอยู่ดี นี่ล่ะคือเหตุผลที่หมวกกันน็อคยุคใหม่ต้องมีวิวัฒนาการกันบ้าง!
บนเว็บไซต์ระดมทุน Indiegogo เราพบนวัตกรรมหมวกกันน็อคจักรยาน ‘แบบพับเก็บได้’ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ LID คือหมวกดีไซน์แปลกที่มีชิ้นส่วนแยกจากกัน แต่สามารถเลื่อนประกอบติดกันง่ายๆ ด้วยระบบล็อคแม่เหล็ก หมวกกันน็อค LID นี้จึงสามารถเก็บใส่กระเป๋าได้ง่ายดายในเวลาที่ไม่ใช้งาน
แซม เทอรี่ ผู้สร้างสรรค์หมวกกันน็อคดีไซน์ใหม่นี้เผยว่าจากการเก็บข้อมูลวิจัยของเขา เหตุผลอันดับหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้จักรยานเลี่ยงที่จะใส่หมวกกันน็อกก็คือ…”เพราะมันวุ่นวายที่จะต้องถือติดตัวไปทั้งวัน” และปัญหาเรื่องหมวกกันน็อคนี้เองก็พาลทำให้ชาวเมืองจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางด้วยวิธีอื่นไปเลยแทนที่จะใช้จักรยาน “ผมคิดว่ามันน่าจะมีโซลูชั่นใหม่ๆ ที่เรานำมาเป็นทางออกให้กับปัญหานี้ได้ ก็เลยลองพัฒนาหมวกกันน็อคสไตล์ใหม่ที่รวมเอาทั้งความสะดวก ความปลอดภัย และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกัน …หมวกกันน็อค LID นี้จึงมีน้ำหนักเบามาก และพับเก็บใส่กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าแบ็คแพ็คของคุณได้ง่ายๆ”
ในเรื่องของความปลอดภัยและการกันกระแทก เจ้าของไอเดียเล่าว่าหมวกซีรีย์นี้ได้ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของทั้ง EN และ CPSC โดยชิ้นส่วนทั้งห้าที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวหมวกสามารถรับแรงกระแทกได้ดีในตัวมันเอง คุณจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะมีคุณภาพด้อยลงไปกว่าหมวกกันน็อคจักรยานแบบดั้งเดิม และที่เจ๋งไปกว่านั้น…คือมันยังใส่แล้วดูเท่ไปอีกนี่สิ!
นายเทอรี่อธิบายต่อว่าไอเดียนี้ของเขาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มขี่จักรยานไปทำงานในกรุงลอนดอนทุกวัน “ในตอนแรกผมก็รู้สึกว่าการขี่จักรยานในกรุงลอนดอนมันค่อนข้างอันตรายนะ ช่วงนั้นลอนดอนเราเพิ่งจะมีบริการ bike share ใหม่ๆ และผมก็เห็นว่ามันเป็นวิถีการเดินทางที่น่าสนใจดี แต่บอกตรงๆ เลยว่าพอขี่จริงแล้วถึงกับช็อค เพราะมีคนใส่หมวกกันน็อคกันน้อยมาก ผมเคยเห็นชายคนหนึ่งล้มหัวฟาดถนนอย่างแรงต่อหน้าต่อตา ซึ่งทำให้ผมกลับมาคิดทบทวนว่า…เพราะอะไรเขาถึงไม่ยอมใส่หมวกกันน็อคกัน?”
เทอรี่สรุปได้ว่าน่าจะเป็นเพราะการเดินทางด้วยจักรยานนั้นมักจะใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่เกิน 20 นาทีต่อทริป ทำให้ผู้ใช้ยอม ‘เสี่ยง’ กับช่วงเวลานั้น เพราะขี้เกียจที่จะต้องถือหมวกกันน็อคไปด้วยทั้งวันนั่นเอง
เราเชื่อแน่ว่าไอเดียตอบโจทย์แบบนี้น่าจะมีผู้รอให้การสนับสนุนอยู่ไม่น้อย เฉพาะบนเว็บไซต์ Indiegogo เอง LID Helmet ก็มียอดระดมทุนได้เกินเป้าไปแล้วถล่มทลาย …สินค้าล็อตแรกตั้งราคาเบาๆ ไว้ที่ 70 เหรียญสหรัฐ และน่าจะจัดส่งถึงมือผู้ซื้อได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2018 นี้
อ้างอิง: lidhelmet.com
