กล่องข้าวที่พกไปกินมื้อกลางวัน นอกจากจะช่วยเติมพลังให้เด็กนักเรียนในระหว่างวัน ยังสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์และภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของแต่ละคนด้วย
แต่ความหลากหลายอาจกลายเป็นความแปลกแยกในสายตาของคนที่ไม่เข้าใจหรือไม่เปิดใจ จนนำไปสู่การล้อเลียนกลั่นแกล้งกัน เป็นปัญหาที่คนกลุ่มน้อยหรือผู้อพยพในประเทศตะวันตกอย่างเช่นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมักเจออยู่บ่อยๆ
เด็กนักเรียนบางคนพอเปิดกล่องข้าวออกมาเป็นเมนูกิมจิ ซูชิ นัตโตะ หรือแกงกะหรี่ (แทนที่จะเป็นแซนด์วิช แครกเกอร์ หรือพาสต้า) ก็อาจโดนเพื่อนฝรั่งเบะปาก ร้องยี้ใส่ หรือพูดจาล้อเลียน ทำให้อับอายและกลายเป็นปมในใจ
เพราะเหตุนี้เอง แคมเปญ Love Your Lunch จึงเกิดขึ้น จากการคิดและลงมือทำของกลุ่ม AAPI (Asian Americans and Pacific Islanders’) ในเมือง Montclair ประเทศอเมริกา โดยใช้กิจกรรมศิลปะที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงง่ายมาเป็นสื่อกลาง และใช้การผนึกกำลังกันของคนในชุมชน ทั้งการขอความร่วมมือจากโรงเรียนและครู จัดกิจกรรมให้เด็กๆ วาดภาพอาหารกลางวันของตัวเองและนำมาพูดคุยกันในชั้นเรียน รวมทั้งการจัดประกวดภาพวาดอาหารกลางวันจานโปรด ให้เด็กนักเรียนได้ร่วมสนุก โดยขอความร่วมมือจากร้านอาหารและคาเฟ่ในชุมชนให้นำผลงานศิลปะไปจัดแสดง บางร้านอาจใจดีเป็นสปอนเซอร์มอบของขวัญหรือเงินรางวัล หรือทำเมนูพิเศษเพื่อขายในวาระพิเศษโดยใช้แรงบันดาลใจจากภาพอาหารกลางวันของเด็กๆ นั่นเอง
ทั้งการพูดคุยเปิดใจในชั้นเรียนและการเผยแพร่ภาพวาดในพื้นที่สาธารณะ ล้วนเปิดโอกาสให้คนต่างวัฒนธรรมได้เรียนรู้และทำความเข้าใจในวัฒนธรรมอาหารของชาวเอเชีย ลดความรู้สึกแปลกแยกให้น้อยลง เคารพความแตกต่างมากขึ้น และยังกระตุ้นให้เด็กๆ เชื้อสายเอเชียเกิดความภาคภูมิใจในอาหารแสนอร่อยจากวัฒนธรรมของตัวเองด้วย
กลุ่ม AAPI Montclair ยังเปิดกว้างให้ผู้สนใจไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครูในโรงเรียนต่างๆ นำแคมเปญ Love Your Lunch นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกิจกรรม สื่อศิลปะต่างๆ รวมถึงรายการหนังสือนิทานที่มีเนื้อหากระตุ้นให้เห็นคุณค่าของอาหารที่หลากหลาย สามารถนำไปเล่าให้ลูกหลานหรือเด็กนักเรียนตัวน้อยได้ฟัง
นอกจากแคมเปญ Love Your Lunch ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ทีม AAPI จัดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่น ด้วยความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาการเลือกปฎิบัติเพียงเพราะความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ สีผิว ศาสนา หรือวัฒนธรรม โดยเน้นสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในชุมชน ไปพร้อมกับสร้างความตระหนักรู้ให้คนต่างวัฒนธรรม
เป็นอีกตัวอย่างของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา และไม่ปล่อยให้การถูกล้อเลียนเป็นแค่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไข
อ้างอิง: Love Your Lunch
