นักศึกษา MIT นำพลาสติกเหลือใช้เสริมความแข็งแกร่งให้คอนกรีต

ปัจจุบันโลกเรากำลังเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก โดยเฉพาะขวดพลาสติกใส่น้ำดื่มที่ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วก็ทิ้ง กลายเป็นขยะที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 450 ปี แม้ว่าการรีไซเคิลจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาขยะพลาสติกจำนวนมากที่มีอยู่บนโลก แต่การรีไซเคิลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆ หลายขั้นตอน ทำให้ปัญหาขวดพลาสติกยังคงเป็นภัยเงียบที่ไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม

ในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีการใช้ขวดน้ำพลาสติกกว่า 8.6 พันล้านขวด และมีเพียง 1 ใน 5 ของทั้งหมดที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่โชคดีที่ตอนนี้นักศึกษาจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) ได้คิดค้นวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการนำขวดพลาสติกเหลือใช้มาปรับเปลี่ยนให้เป็นคอนกรีตที่แข็งแรงทนทาน โดยการนำพลาสติกมาทำเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วไปฉายด้วยรังสีแกมม่าเพื่อทำให้กลายเป็นผง จากนั้นนำไปผสมกับคอนกรีตอีกครั้งหนึ่งให้ได้มาซึ่งคอนกรีตที่แข็งแรงกว่าคอนกรีตทั่วไปประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ สามารถนำไปใช้ก่อสร้างฐานอาคาร, ทางเดินเท้า, สะพานและอื่นๆ อีกมากมาย

การรวมเอาพลาสติกเข้ากับคอนกรีตนี้ไม่เพียงจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก แต่ยังทำให้เราใช้ซีเมนต์ในการในการผลิตคอนกรีตน้อยลง ส่งผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตคอนกรีตซึ่งคิดเป็น 4.5 เปอร์เซ็นต์ของโลก แม้ว่าการคิดค้นดังกล่าวจะเป็นการนำพลาสติกมาแทนที่คอนกรีตเพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นก็หมายความว่าเราจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 0.0675 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดและที่สำคัญทำให้ได้คอนกรีตที่มีความแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ทีมนักศีกษายังมีแผนในอนาคตที่จะทดลองกับพลาสติกหลากหลายประเภทด้วยรังสีแกมม่าแบบอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และถ้าสามารถนำคอนกรีตดังกล่าวไปใช้งานจริงได้ คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกและทำให้สภาพแวดล้อมโลกดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

อ้างอิง: Inhabitat, Facebook