No One Want To See: ศิลปะจากมะเร็ง นิทรรศการที่ไม่มีใครอยากดู แต่ต้องดู!

ศิลปะ คือการแสดงออกจากความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์จากมโนภาพที่ได้จากความจริงหรือจินตนาการที่คิดฝันขึ้น  เป็นสื่อกลางทำให้ผู้อื่นสามารถชื่นชมไปกับความงาม และสามารถเข้าใจในอุดมการณ์นั้นๆ ของผู้สร้างสรรค์ได้  แต่หากเราบอกว่างานศิลปะชุดนี้ ผู้สร้างสรรค์คือฆาตกรร้าย  ที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกมาแล้วนับล้านๆ ชีวิต คุณยังอยากจะดูผลงานชุดนี้มั้ย?

No One Wants To See เป็นนิทรรศการศิลปะ ที่จัดตั้งโดยกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในประเทศบราซิลที่รวมตัวกันและระดมทุนผ่านระบบคลาวด์ฟันดิ้ง แสดงภาพศิลปะที่ไม่ใครอยากดู! เพราะภาพที่ดูเหมือนจะสวยงามด้วยสีสันและลักษณะแปลกตา เหมือนถูกสร้างสรรค์จากศิลปินสไตล์แอบสแตร็กซ์ แต่แท้ที่จริงแล้วภาพเหล่านั้นเป็นภาพขยายของเซลล์มะเร็งเต้านม! และผู้ที่ได้ชมงานศิลปะชุดนี้ ต่างช็อคก็ไปตามๆ กัน ในทันทีที่ได้ทราบว่าภาพศิลปะนี้คืออะไร

นิทรรศการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้หญิงตระหนักถึงภัยร้ายของมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิง ให้ผู้หญิงใส่ใจกับการตรวจมะเร็งเต้านม เพราะเซลล์มะเร็งแบบในภาพอาจกำลังก่อตัวในร่างกาย โดยไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ จนกว่าโรคจะพัฒนาไปถึงขั้นแพร่กระจายสู่ระบบอื่น หลังจากนิทรรศการนี้จัดแสดงไปได้ไม่กี่ที่ ก็ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ ของบราซิล คิดเป็นมูลค่าสื่อถึง 1 ล้านดอลล่าร์ ได้รับคำชมเชยจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งนิทรรศการนี้ได้จัดแสดงหมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย อาคารสำนักงาน และกลุ่มผู้จัดนิทรรศการยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ ห้างร้าน หรือองค์กรใดที่สนใจสนับสนุนการรณรงค์มะเร็งเต้านม สามารถนำนิทรรศการนี้จัดแสดงตามอีเว้นท์หรืองานต่างๆ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือองค์กรได้อีกด้วย

ถึงแม้จะไม่มีใครอยากดูผลงานของมะเร็ง แต่ผู้หญิงทุกคนก็ต้องใส่ใจคอยตรวจสอบอย่าปล่อยให้มะเร็งมีโอกาสสร้างผลงานในร่างกาย  ซึ่งมะเร็งเต้านม ผู้หญิงทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่าสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง โดยการคลำด้วยมือ และควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอ

หากยิ่งรู้เร็ว โอกาสรักษาหายก็มีมากขึ้นเท่านั้น

อ้างอิง: Coloribus, No One Wants To See

จงจิตร สมิทธิ์

Head of Creative บริษัท Far East Fame Line DDB มีความเชื่อว่างานโฆษณาที่ดีใช้แค่ Creativity ไม่พอ แต่ต้องใช้ Humankind Creativity ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสังคมและโลกไปในทางที่ดีขึ้นด้วย

See all articles