‘Parker’ ตุ๊กตาหมี AR ตัวแรกของโลก เสริมสร้างการเรียนรู้ให้เด็กๆ

ของเล่นที่เด็กหลายต่อหลายคนโปรดปรานคงจะหนีไม่พ้น ‘ตุ๊กตา’ เพราะเด็กสามารถเล่นสมมติ สวมบทบาท และใช้จินตนาการได้ตามใจชอบ ซึ่งการเล่น ‘ตุ๊กตา’ ช่วยส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ สนับสนุนพัฒนาการทางร่างกายของเด็ก อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะภาษาและสังคมอย่างง่ายๆด้วย ดังนั้น ‘ตุ๊กตา’ จึงเป็นของเล่นอมตะทรงคุณค่าไม่มีวันเอาท์ง่ายๆ ไม่ว่าจะเราอยู่ในยุคไหนๆ

ล่าสุด Seedling บริษัทสตาร์อัพสำหรับเด็ก ได้เปิดตัวตุ๊กตาหมีสุดล้ำที่ชื่อว่า ‘Parker’ ซึ่งเป็นตุ๊กตาหมีตัวแรกของโลกที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AR (augmented reality) ผ่านแอพพลิเคชั่น Parker บนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งก็คือ iPhone และ iPad นั่นเอง โดยรูปร่าง หน้าตาของ Parker จะเหมือนกับตุ๊กตาหมีทั่วๆ ไป ไม่มีกล้อง แบตเตอรี่ หรือฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ในตุ๊กตา แต่จะมาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ทำจากไม้ให้เด็กๆ ได้ใช้โต้ตอบกับเจ้า Parker อาทิ เครื่องวัดอุณหภูมิ, หูฟังคุณหมอ, แผ่นเอ็กซ์เรย์, ช้อน และขวดยา

Parker ถูกออกแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นสมมติบทบาทคุณหมอ ซึ่งจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะด้านวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, ศิลปะ และคณิตศาสตร์ ผ่านเกมส์และปริศนาต่างๆ ซึ่งเมื่อเด็กๆ สามารถรักษาอาการป่วยของตุ๊กตาหมีให้หายได้หรือแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ระดับความสุขของเจ้าหมี Parker ก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สามารถปลดล็อคฟีเจอร์ AR อื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น หรืออาจจะใช้วิธีการปลดล็อคฟีเจอร์ด้วยการเล่นกับ Parker บ่อยๆ ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งเด็กๆ ยังสามารถตรวจร่างกาย Parker ผ่านเทคโนโลยีการสัมผัสแบบ 3D Touch สั่งให้ Parker สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตรวจวัดความจุปอด, รักษาอาการปวดท้อง, อาการเจ็บคอ, วัดอุณหภูมิร่างกาย, ตรวจกระดูก และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจาก Parker จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะในด้านต่างๆ แล้ว ยังช่วยให้เด็กเรียนรู้การแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เสริมสร้างความมั่นใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสอนให้รู้จักความห่วงใยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอีกด้วย ขณะนี้ตุ๊กตาหมี Parker วางจำหน่ายที่ Apple.com และร้าน Apple ในบางประเทศเท่านั้น ในราคา 59.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ

อ้างอิง: The Verge, Apple

 

Nungruethai Katuszkewski

แป้ง อดีตเคยทำงานด้าน Marketing และ Buyer แต่ด้วยใจที่รักการเขียนและชอบศึกษาภาษาต่างประเทศ บวกกับการชอบเดินทางท่องเที่ยว ทำให้ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนและนักแปลอิสระให้กับนิตยสารและบริษัทต่างๆ

See all articles

Next Read