อีกครั้งกับผลงานชิ้นล่าสุดของศิลปิน Vong Wong ชาวแคนาดา ผู้โฟกัสเรื่องปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม เขาทำงานอย่างต่อเนื่องและเราได้ติดตามนำเสนอมาก่อนหน้านี้แล้วใน Clothing the Loop ทุกผลงานล้วนการันตีถึงคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์ ที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ สะท้อนปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ และรวมไปถึงความเสื่อมโทรมทางทะเลที่วิกฤตอยู่ในปัจจุบัน ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร Zero Waste Saigon และสตาร์บัคส์ แสดงผลงานศิลปะประติมากรรมสุดอลังการในชื่อชุดว่า STRAWPOCALYPSE ขึ้นที่ศูนย์การค้า เอสเตลา เพลส เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ วันที่ 22 มกราคม 2019 ซึ่งจะจัดแสดงเป็นระยะเวลา 3 เดือน
หลอดพลาสติกมากมายถึง 168,037 อัน ประกอบเป็นอุโมงค์คลื่นยักษ์สูง 3.3 เมตร ยาว 8 เมตร และกว้าง 4.5 เมตร ที่กำลังถาโถมเข้าใส่ชีวิตคนเราอย่างบ้าคลั่ง ศิลปินเชื่อว่าเมื่อเดินผ่านก็จะช่วยกระตุกต่อมสำนึกในปัญหาขยะพลาสติกในท้องทะเลให้รู้ว่ามันมากมายขนาดไหน คงไม่ใช่แค่ศิลปะจัดแสดงตระกานตา เพราะนี่คือการแทนค่าภัยพิบัติจากธรรมชาติที่มีอยู่จริงแถมยังจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ไม่ต้องถามว่าทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือใคร นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ภายในปี 2050 ขยะพลาสติกเหลือใช้ในมหาสมุทรจะมีจำนวนมากกว่าชีวิตสัตว์น้ำทั้งหลาย
สตาร์บั้คช่วยเก็บหลอดพลาสติกจากลูกค้านำไปทำความสะอาดแล้วส่งมอบมาเพื่อเป็นวัตถุดิบในการสร้างงาน ถึงจะทำจากหลอดพลาสติก แต่ก็ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่หลอดพวกนั้นเท่านั้นที่ถูกใช้เพียงชั่วครู่ก็ทิ้งไป ยังมีถุงพลาสติกอีกมหาศาลที่ถูกใช้ในลักษณะเดียวกัน นับจำนวนหลายล้านชิ้นถูกทิ้งไปต่อวัน และเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าเพียงไม่กี่นาทีที่เราใช้ กลับต้องใช้เวลาหลายร้อยปีที่จะทำให้ขยะพลาสติกเหล่านั้นสูญสลาย
ตลอดวันการใช้ชีวิตของเรา มักคิดเอาเองว่าการใช้หลอดหรือถุงพลาสติกแล้วทิ้งไปนั้นเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน เป็นพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เมื่อกลายเป็นขยะในท้องทะเลและสิ่งแวดล้อม จนแปรเปลี่ยนส่งผลสะท้อนกลับมาในรูปภัยพิบัติแล้ว ทุกคนค่อยตื่นตระหนกตกใจและหวาดกลัว เป็นเรื่องน่าหัวร่อเพราะทุกคนล้วนช่วยกันสร้างสิ่งนั้นขึ้นด้วยน้ำมือตัวเอง งานศิลปะชิ้นหนึ่งอาจช่วยให้รู้สึกสำนึกรับผิดชอบให้เราได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายคนก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกด้วยความเคยชิน ลืมไปแล้วว่าหลอดพลาสติกที่เราดูดอยู่กำลังสร้างปัญหาให้ที่ไม่มีวันแก้ได้จบสิ้น ก็คล้ายชะตากรรมของซิซีฟัส ที่ถูกสาบให้เข็นก้อนหินขึ้นภูเขาแล้วหินนั้นก็จะกลิ้งหล่นลงทับตัวเอง แต่ก็ต้องเข็นขึ้นไปใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
อ้างอิง: www.vonwong.com, Facebook: The Von Wong