ในสหรัฐอเมริกามีปริมาณอาหารเหลือทิ้งในแต่ละปีมากถึง 133 พันล้านปอนด์ (ตามรายงานของ USDA) ทำให้ปัจจุบันมีการพยายามที่จะหาวิธีลดปัญหาขยะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ใกล้หมดอายุ การขายผลไม้ที่มีตำหนิในราคาถูก หรือการใช้รถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตจากอาหารเหลือใช้
ล่าสุดบริษัทด้านเทคโนโลยีสัญชาติอิสราเอลอย่าง Wasteless ได้นำเสนอโซลูชั่นการติดตามแบบเรียลไทม์ (real-time tracking solution) สำหรับการใช้งานในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกต่างๆ เพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถเสนอราคาขายที่หลากหลายให้กับผู้ซื้อโดยยึดตามวันหมดอายุของสินค้า โดยแพล็ตฟอร์มของ Wasteless จะใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID คือเทคโนโลยีที่ใช้ระบุสิ่งต่างๆ โดยอาศัยคลื่นวิทยุ), ระบบการตั้งราคาแบบเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ (Dynamic pricing engine) และป้ายราคาอิเล็กทรอนิกส์ตรงชั้นวางสินค้า ส่งผลให้ร้านค้าสามารถเปลี่ยนราคาสินค้าได้อัตโนมัติเพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าที่ใกล้จะหมดอายุได้ในราคาที่ถูกลงและเมื่อลูกค้าเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ระบบก็จะดึงราคาสินค้าที่ถูกต้องได้อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเตือนร้านค้าได้ด้วยว่าสินค้าใดใกล้จะหมด ทำให้ร้านค้าสามารถสั่งสินค้าได้ทันท่วงที หมดปัญหาสินค้าค้างบนชั้นสินค้า
ทั้งนี้ระบบ Wasteless ได้แนวคิดการพัฒนาจากเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ในรูปแบบของ Internet of Groceries ที่ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูก ร้านค้าได้เพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยลดขยะอาหารจากร้านค้าปลีกซึ่งมีอัตราร้อยละ 40 ของขยะอาหารทั้งหมดของโลกอีกด้วย
อ้างอิง: Wasteless, Springwise
