‘Women on the Map’ คือหนึ่งในกิจกรรมของกลุ่ม SPARK Movement ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมีความเป็นอยู่ที่ดี มีสุขภาวะทางเพศที่เหมาะสม และหยุดยั้งความรุนแรงที่เกิดกับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง เช่นกิจกรรม #KeepItReal แคมเปญรณรงค์ให้นิตยสารที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นงดการใช้โปรแกรมโฟโต้ช็อปเพื่อรีทัชรูปร่างหน้าตาของนางแบบให้สวยไร้ที่ติ เพราะเป็นการสร้างค่านิยมความงามที่ไม่อยู่บนความเป็นจริง กดดันให้ผู้หญิงรู้สึกว่าต้องสวยสมบูรณ์แบบ ทั้งที่ความเป็นจริงความสวยนั้นไม่ได้มีแบบเดียว และคุณค่าของผู้หญิงก็ไม่ได้มาจากความสวยงามเท่านั้น
สำหรับโปรเจ็กต์ ‘Women on the Map’ เริ่มต้นในปี 2014 เมื่อทีม SPARK ได้ทำการสำรวจ Google Doodle (คือส่วนที่เป็นโลโก้บนเว็บไซต์ Google ที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นภาพวาดสนุกๆ ไปตามวันสำคัญหรือคนสำคัญของโลก) ซึ่งในระหว่างปี 2010 ถึง 2013 พบว่ามีการทำ Google Doodle ให้กับคนสำคัญที่เป็นผู้หญิงเพียง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทีม SPARK จึงแจ้งไปยังบริษัท Google ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี เมื่อ Google ก็ยอมรับและตระหนักจริงๆ ว่ามีคนสำคัญระดับโลกที่เป็นผู้หญิงอีกมากมายที่ถูกละเลยไป เรื่องนี้ดูเผินๆ เหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่นี่คือผลสะท้อนของอคติทางเพศที่แอบแฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอย่างแนบเนียน
ด้วยเหตุนี้ ทีม SPARK Movement จึงได้รับอนุญาตจาก Google ให้ใช้เทคโนโลยีจากแอพพลิเคชั่น Field Trip (แอพแผนที่ของบริษัท Google) โดยทีมงานได้ทำการค้นคว้าข้อมูลและรวบรวมรายชื่อผู้หญิงที่มีความสามารถระดับโลกมากกว่า 100 คน แล้วนำไปเชื่อมโยงเข้ากับแอพ Field Trip นี้ โดยคนที่ดาวน์โหลดแอพ Field Trip มาใช้ ให้เข้าไปเลือกหมวดที่เป็น Historic Places and Events เมื่อเดินทางผ่านเมืองหรือสถานที่ทีเกี่ยวข้องกับคนสำคัญที่เป็นผู้หญิง (ที่ถูกบันทึกข้อมูลไว้) โทรศัพท์ก็จะสั่นเตือนขึ้นมา พร้อมทั้งบอกข้อมูลของผู้หญิงเก่งเหล่านี้ให้เรารับรู้ ยกตัวอย่างเช่น ที่เมือง Lyme ประเทศอังกฤษ มีนักบรรพชีวินวิทยา (ผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ เช่น ซากฟอสซิล) ชื่อ Mary Anning ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ค้นพบฟอสซิลของไดโนโสาร์เพลสิโอซอร์ตัวหนึ่งจนสร้างความฮือฮาไปทั้งวงการ
เวลาพูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศ บางคนอาจบอกว่า ยุคสมัยนี้ผู้หญิงก็เท่าเทียมกับผู้ชายแล้วนี่นา เดี๋ยวนี้มีผู้หญิงเก่ง มีอำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง เยอะแยะไป ซึ่งก็เป็นความจริง โลกเปลี่ยนแปลงไป และผู้หญิงก็ได้รับโอกาสมากขึ้น แต่…มันยังเปลี่ยนไม่หมดน่ะสิ! เพราะในบางกลุ่มสังคมบางภูมิภาคเรายังพบเห็นผู้หญิงและเด็กผู้หญิงถูกเอาเปรียบเรื่องค่าจ้าง ถูกกีดกันเรื่องงาน ไม่ได้รับโอกาสให้เข้าถึงการศึกษา ไปจนถึงตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศและการละเมิดทางเพศ อยู่เลย (ข้อมูลจากสหประชาชาติ) เรื่องนี้เป็นปัญหาที่แก้ไม่ง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อค่านิยมที่ถูกปลูกฝังสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน
อ้างอิง: Women on the Map
