Blood Beacon ช่วยผู้บริจาคเลือดรู้ทันที โลเกชั่นพินกลับหัวเมื่อไหร่ ไปบริจาคได้ทันเวลา!

ประเทศไต้หวันมีผู้บริจาคเลือด 7.5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด นับว่าเป็นอัตราสูงที่สุดของโลก แต่ความต้องการเลือดก็มีสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน แต่สูงยังไงก็ยังไม่พอในเวลาฉุกเฉิน หากมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นจะทำอย่างไร ? และจะทำอย่างไรให้ผู้บริจาคเลือดได้เข้าถึงการบริจาคในพื้นที่ที่มีความต้องการได้อย่างรวดเร็ว?

แต่ยังมีอีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจคือ อัตราการใช้สมาร์ทโฟนในไต้หวันสูงเป็นที่สองของโลก ผู้คนเข้าถึงอินเตอร์เนทได้แทบจะทุกพื้นที่ทุกเวลา และมีการใช้แอปพลิเคชั่นประเภท Navigation หรือการแนะนำเส้นทางเป็นจำนวนมาก เช่น แอปฯ หาที่จอดรถ แอปฯ เดลิเวอรี่ บริษัทเอเยนซี่โฆษณา J. Walter Thompson APAC จึงนำข้อมูลนี้มาใช้ประโยชน์ นำเสนอโปรเจ็กต์ Blood Beacon ร่วมกับ Taipei Blood Center ซึ่งใช้ Beacon ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในยุค IoT หรือ Internet of Things เข้ามาช่วยในการทำให้การบริจาคเลือดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ถูกที่ ถูกเวลา

Beacon คือ ฮาร์ดแวร์ชิ้นเล็กๆ ที่สามารถปล่อยสัญญาณออกมาอย่างเดียว เชื่อมต่อกับแอปฯ บนสมาร์ทโฟน ในระยะ 0 – 70 เมตร  เมื่อแอปฯ ได้สัญญาณจาก Beacon ก็สามารถนำเสนอข้อมูลได้ ซึ่ง Blood Beacon เชื่อมโยงเข้ากับแอปฯ หลายตัวที่ชาวไต้หวันใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะแอปฯ ประเภทหาที่จอดรถ ซึ่งมีผู้ใช้อยู่ถึง 2 ล้านคน เมื่อผู้ประสงค์จะบริจาคเลือดอยู่ในพื้นที่ใดก็ตามที่มี Blood Beacon ติดตั้งอยู่ พวกเขาก็จะได้รับข้อมูลปรากฏขึ้นบนสมาร์ทโฟนของพวกเขาว่า พื้นที่นี้มีความต้องการเลือดมากน้อยแค่ไหน เลือดกรุ๊ปอะไร ที่ไหน ถ้าพื้นที่นั้นต้องการเลือดในระดับฉุกเฉิน สัญลักษณ์โลเกชั่นที่ปรกติจะเห็นเป็นรูปหมุดพินสีแดง ก็จะกลับหัวเป็นรูปหยดเลือดทำให้ผู้ใช้รู้ได้ทันทีว่าพื้นที่นี้ต้องการเลือดด่วน หากประสงค์ที่จะบริจาคเลือดก็กดปุ่มนำทางไปจุดรับบริจาคเลือดได้เลย ผลปรากฏว่าเวลาในการรอการบริจาคเลือดลดลงจาก 35 ชั่วโมง เหลือเพียง 7 ชั่วโมง สามารถนำเลือดช่วยเหลือชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

และด้วยความสะดวก ง่าย ได้ผลของ Blood  Beacon ทำให้แอปฯ หลายตัวร่วมเป็นพันธมิตรกับ Blood Beacon มากขึ้น จำนวนผู้ที่ประสงค์บริจาคเลือดและปริมาณเลือดที่ได้รับการบริจาคก็เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ Blood  Beacon ยังได้รับรางวัลในการประกวดผลงานความคิดสร้างสรรค์มากมายทั้งในระดับเอเชียถึงระดับสากล จากการนำความคิดสร้างสรรค์ + เทคโนโลยี + ข้อมูล มาทำให้เกิดประโยชน์ ใช้ง่าย กลมกลืนไปกับชีวิตประจำวัน และยังมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้และได้ช่วยเหลือผู้อื่น

ในวันที่เรามีเทคโนโลยีและข้อมูลท่วมท้นอย่างนี้ ก็ยังมีโอกาสให้เราได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อีกเยอะทีเดียว

อ้างอิง: Campaign Brief Asia, We love Ad

Tags

Tags:

จงจิตร สมิทธิ์

Head of Creative บริษัท Far East Fame Line DDB มีความเชื่อว่างานโฆษณาที่ดีใช้แค่ Creativity ไม่พอ แต่ต้องใช้ Humankind Creativity ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสังคมและโลกไปในทางที่ดีขึ้นด้วย

See all articles