การมีประจำเดือนเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะยังมีคนอีกหลายกลุ่ม หลายประเทศที่มีความเชื่อผิดๆ แปลกๆ เกี่ยวกับการมีประจำเดือนของผู้หญิง อาทิ ในประเทศญี่ปุ่น หญิงสาวไม่สามารถทำงานเป็นเชฟซูชิได้ เนื่องจากการมีประจำเดือน ส่วนในอินเดีย หากผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนสัมผัสกับผักผลไม้จะกลายเป็นของเสีย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงในอิหร่าน เชื่อว่าการมีประจำเดือนคือโรค เป็นต้น ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้หญิงทั่วโลก
องค์กรเพื่อสังคม Be Girl ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวหลายล้านคนทั่วโลกได้มีผ้าอนามัยใช้ โดยการพัฒนากางเกงอนามัยที่มีช่องใส่แผ่นผ้าอนามัยแบบพิเศษที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และมีราคาย่อมเยา โดยที่ผ่านมาได้แจกจ่ายให้กับหญิงสาวที่ยากจนในพื้นที่ห่างไกลไปแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก แต่แล้วปัญหาที่พวกเขามองเห็น กลับไม่ได้มีแค่เรื่องการไม่มีผ้าอนามัยใช้เท่านั้น เพราะยังมีหญิงสาวมากมายที่ยังคงต้องประพฤติตนอยู่ในกรอบของความเชื่องมงายเกี่ยวกับเรื่องของประจำเดือนที่มีมาแต่ช้านาน ส่งผลให้พวกเธอไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และด้วยเหตุนี้ Be Girl จึงลุกขึ้นมาปฏิวัติความเชื่อเดิมๆ ด้วยการจัดแฟชั่นโชว์รูปแบบใหม่ในงานแฟชั่นวีคที่ประเทศโมซัมบิก (แอฟริกาตะวันออก) ด้วยการให้นางแบบสาวผิวสีสวมใส่กางเกงอนามัย Be Girl PeriodPanty พร้อมกับใส่สร้อย SmartCycle (อุปกรณ์ Period Tracker ที่ช่วยสอนให้เด็กวัยรุ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับรอบประจำเดือน) เดินเฉิดฉายบนรันเวย์ เพื่อแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า การมีประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติหรือเป็นเรื่องน่าอับอายแต่อย่างใด ทำให้คนยอมรับว่ากางเกงอนามัยก็เปรียบเสมือนกับของใช้ในชีวิตประจำวันไม่ต่างจากเครื่องประดับอย่าง แว่นกันแดด หรือกระเป๋าสะพาย โดยทาง Be Girl หวังว่าการนำเสนอนี้จะสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้คนได้ไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลบล้างความเชื่อหรือขนมธรรมเนียมที่มีมาแต่ช้านานให้ออกจากความคิดของผู้คน แต่อย่างน้อยการลุกขึ้นมาปฏิวัติกรอบความเชื่อเดิมๆ ด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ผ่านสายตาคนทั่วโลก ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตได้
อ้างอิง: Facebook: Be Girl, Be Girl