ถึงจะเชื่อตัวเองว่าไม่ประมาทในการขับขี่ แต่โอกาสที่จะเจออุบัติเหตุบนท้องถนนก็ยังมีได้ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงไม่มีใครรู้ได้เลยว่าจะรุนแรงแค่ไหน ทุกคนรู้กันดีว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยมีส่วนช่วยป้องกันการเสียชีวิต แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่คาดกันเพราะความมักง่าย จากสถิติของกรมการขนส่งประเทศนิวซีแลนด์ NZTA มีผู้เสียชีวิตจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 90 คนต่อปี (ถ้าเทียบกับประเทศไทยคงเป็นจำนวนน้อยนิด) และอาจมีคนย้อนว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยนั้น ไม่ได้ช่วยให้รอดพ้นจากอาการบาดเจ็บ แต่ดีกว่าไหมล่ะ ที่จะไม่ไปจบลงด้วยความตาย ภาพถ่ายเหล่านักขับขี่กับรอยฟกช้ำเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเขารอดตายมาได้เพราะอะไร
ภาพพอร์ตเทรตแนวคนเหล็กชวนตะลึงทั้งหมดนี่เป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ Belt up. Live on. ที่ต้องการเตือนผู้ใช้รถทั้งหลาย ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตด้วยการคาดเข็มขัดนิรภัย ผลงานสร้างสรรค์ของบริษัทโฆษณา Clemenger BBDO โดยการสนับสนุนของกรมการขนส่งประเทศนิวซีแลนด์ NZTA
เหล่าพรีเซนเตอร์ทั้งสิบคนนี้ล้วนเคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้ว ทีมงานจับพวกเขามาแต่งหน้าทำเอฟเฟค และแต่งแต้มรอยฟกช้ำตามร่างกายให้เหมือนกับวันที่พวกเขาเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาหมาดๆ และทำการถ่ายคลิปสั้นบอกถึงวันที่เกิดอุบัติเหตุของแต่ละคนให้เราได้รับรู้ แล้วนำภาพถ่ายทั้งหมดพรินท์ขยายลงบิลบอร์ด ปิดกระจายไปทั่วประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ในเว็บไซด์ยังเปิดโอกาสให้ผู้คนที่เข้ามาชมและมีประสบการณ์ในลักษณะเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้คนอื่นได้รู้ด้วย นี่เป็นโครงการที่ดี น่าสนใจและคาดว่าจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากท้องถนนได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับประเทศไทย จากสถิติขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2558 เราเป็นผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนนมากที่สุดในอันดับที่ 9 จาก 175 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ยอดผู้เสียชีวิตประมาณ สองหมื่นกว่าชีวิตต่อปี และเท่ากับ 60 คนต่อวัน ทั้งหมดของผู้เสียชีวิตอาจไม่ใช่มาจากสาเหตุเดียวกัน แต่อย่างน้อยก็บ่งบอกถึงพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนในสังคมได้ดี บางทีแคมเปญอย่าง Belt up. Live on. นี้ก็น่าจะนำมาต่อยอด ดัดแปลงใช้กับบ้านเราได้บ้างเหมือนกัน เผื่อจะปลุกจิตสำนึกคนใช้รถใช้ถนนให้ตระหนักถึงความปลอดภัยกันมากขึ้น
อ้างอิง: beltedsurvivors.nz, brandinginasia.com, searo.who.int, news.ch3thailand.com
