30 Days of Trash: สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยชุดขยะ 30 วัน

บางทีเราก็ต้องการคนที่คิดอะไรแผลงๆ เพื่อประกาศให้โลกรู้ถึงมลพิษที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการแสดงออกถึงปัญหาที่ยากจะแก้ไข นั่นคือขยะล้นโลกที่มีแต่ทำลายสิ่งแวดล้อมและจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างยากจะแก้ไข 30 Days of Trash หรือ ขยะในรอบเดือนของคนเรามีจำนวนมากมายแค่ไหน ถ้านึกไม่ออกลองมาดูเขานี่ Rob Greenfield กำลังทำให้ดู

Rob เป็นนักสร้างสรรค์ นักผจญภัย และนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่สร้างปรากฏการณ์ทางสังคม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในหลากหลายรูปแบบ ก่อนหน้านี้กับโครงการ The Food Waste Fiasco เขาขี่จักรยานข้ามอเมริกาแล้วกินอาหารที่ถูกทิ้งจากซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อสะท้อนภาพการเหลือทิ้งจากการบริโภค คราวนี้ก็เช่นกันกับคำถามง่ายๆ ว่า ในแต่ละวันคนเราจะผลิตขยะจำนวนเท่าไหร่ เขาเลยเอาซากขยะทุกชิ้นที่ต้องทิ้งในแต่ละวัน (ล้างสะอาด) ผูกติดกับตัวแล้วลองใช้ชีวิตร่วมกับมันดูว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องสงสัยว่าจะสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้พบเห็นมากมาย ขยะที่พอกพูนขึ้นติดตัวเขา 4.5 ปอนด์หรือเท่ากับ 2.04 กิโลกรัมต่อวันคือวิถีการทิ้งขยะในชีวิตของคนอเมริกัน ซึ่งเท่ากับเดือนละ 135 ปอนด์หรือ 61.2 กิโลต่อเดือน ขยะเหล่านี้มาจากไหน? แน่นอนมันคือซากเหลือทิ้งที่เราบริโภคเข้าไปในทุกวัน ย้อนไปถึงต้นสายจากการผลิตสินค้าในระบบการตลาดจำนวนมหาศาล และที่น่าสนใจก็คือมันจำเป็นต้องผลิตมากมายขนาดนั้นจริงๆ หรือว่าเรากำลังบริโภคสินค้าเกินความจำเป็น ทุกครั้งที่เดินไปซื้อของในห้างเราเคยวางแผนล่วงหน้าก่อนหรือไม่หรือซื้อตามใจชอบ หลายคนก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้มาก่อน เพราะคิดว่าขยะเหล่านั้นจะถูกนำไปเข้าระบบรีไซเคิล แต่ไม่รู้หรอกว่าต้องสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาลในการกำจัดขยะ

แวบแรกทุกคนย่อมรู้สึกขยะแขยงเพราะเหมือนมนุษย์ขยะเดินได้ บ้างเรียกขยะทรานฟอร์เมอร์ ตัวประหลาดขยะ หรือแม้แต่ มนุษย์ขยะอวกาศ ไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้แต่ก็น่าตลก เพราะตัวเราเองก็กำลังผลิตขยะเหล่านั้นอยู่ แต่กลับไม่รังเกียจตัวเองด้วย นี่เป็นวิธีการที่ฉลาดในการสะท้อนภาพเสมือนการแสดงงานศิลปะแนว Happening Art ที่พอเห็นปุ๊บก็รู้สึกถึงอารมณ์สะเทือนใจชวนให้เกิดความคิดขึ้นในทันที ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของเราแล้วช่วยสำรวจตัวเองด้วยว่าวันนี้เราผลิตขยะกันคนละกี่กิโลแล้ว

อ้างอิง: Rob GreenfieldFacebook.com/RobGreenfieldHuffington Post

บันทึก

วรัญญู อุดมกาญจนานนท์

Art may not be the only way to brighten the world, but it is essential to create a beautiful life. รักงานสร้างสรรค์อิสระ...งานเขียนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวหนังสือคือความคิดที่เชื่อมโลกกับเราไว้ด้วยกัน

See all articles