ในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส หลายคนชอบใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง แต่บางคนคนกลับไม่รื่นรมย์กับฤดูใบไม้ผลิ เพราะต้องป่วยด้วยอาการแพ้เกสรต้นไม้ทุกปี ทั้งระคายเคืองในตา ผื่นคัน เจ็บคอ น้ำมูกคัดจนหายใจไม่ออก
ในประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันกว่า 60 ล้านคนเป็นภูมิแพ้จากเกสรของต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ที่ปล่อยละอองเกสรนั้นเป็นต้นไม้เพศผู้ และต้นไม้ส่วนใหญ่ในอเมริกาเป็นเพศผู้! เพราะตามธรรมชาติแล้วต้นไม้เพศผู้ไม่ออกดอก จึงไม่มีดอกให้ร่วงกราวให้ต้องคอยเก็บกวาด สวนสาธารณะและสนามหลังบ้านหลายแห่งจึงรายล้อมไปด้วยต้นไม้ตัวผู้ที่เต็มไปด้วยละอองเกสรสาเหตุของภูมิแพ้ แย่ไปกว่านั้น จากการศึกษาวิจัยคาดว่าระดับละอองเกสรจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2040
USDA หรือกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา แนะนำว่าควรปลูกต้นไม้เพศเมียซึ่งไม่มีละอองเกสร ไม่มีสารที่ทำก่อให้เกิดภูมิแพ้ และยังทำหน้าที่ดูดซับละอองเกสรของต้นไม้เพศผู้อีกด้วย แต่ปัจจุบันต้นไม้เพศเมียมีจำนวนน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนต้นไม้เพศผู้
Claritin ยาแก้แพ้ โดยบริษัทเบเออร์ อเมริกา ร่วมกับเอเยนซีโฆษณา Energy BBDO ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ The DiversiTree Project ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยต่อสู้กับระดับละอองเกสรที่เพิ่มขึ้น และคืนความสมดุลทางพฤกษศาสตร์ผ่านการปลูกต้นไม้เพศเมีย โดยสนับสนุนให้สาธารณชนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยโครงการฯ ได้ร่วมมือกับ The Arbor Day Foundation และครงการ Community Canopy เปิดเว็บไซต์แจกต้นไม้เพศเมียให้กับประชาชนฟรี โดยโครงการนี้เริ่มที่เมืองนิวออลีน รัฐลอสแองเจอลิส และเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นสองเมืองที่ได้รับการจัดอันดับโดย Asthma and Allergy Foundation of America ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ท้าทายที่สุดในการมีชีวิตอยู่กับโรคภูมิแพ้
Claritin มุ่งมั่นที่จะสร้างเมืองที่มีสารก่อภูมิแพ้ต่ำ โดยมีแผนที่จะปลูกป่าที่อุดมไปด้วยต้นไม้เพศเมียเพิ่มเติมในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ทั่วสหรัฐอเมริกาและขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดี สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ ทำให้สถานการณ์ของโรคภูมิแพ้ดีขึ้นโดยไม่ต้องกินยา โครงการ DiversiTree จึงไม่ได้เกี่ยวกับการลดระดับละอองเกสรเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้แก่ผู้คนและองค์กรต่างๆ เกี่ยวกับความสำคัญของความหลากหลายทางพฤกษศาสตร์ เน้นถึงประโยชน์ของการปลูกต้นไม้เพศเมีย
นอกจากนี้ยังทำการวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์พืช โดยความร่วมมือกับ Dan Katz นักวิจัยอาวุโสจาก School of Integrative Plant Science แห่ง Cornell University ตรวจสอบศักยภาพในการปลูกต้นไม้ที่มีละอองเกสรต่ำ รวมถึงพืชพันธุ์เพศเมียหลากหลายสายพันธุ์ เพื่อลดความเข้มข้นของละอองเกสรในอากาศของนครนิวยอร์กในอีก 50 ปีข้างหน้า และส่งต่อข้อมูลการวิจัยที่เชื่อถือได้พร้อมผลักดันให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายด้านนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต่อไป
อ้างอิง: Claritine, BusinessWire
