ตามมากับสถานการณ์สาธารณภัย ภัยพิบัติ หรือภัยสงคราม ที่เกิดขึ้นไม่เว้นปี คือความพยายามของมนุษย์ในการมองหาสารพัดวิธีป้องกันและบรรเทาความสูญเสีย หนึ่งในนั้นคือการพัฒนา ‘เตียงสนาม’ รูปแบบใหม่ๆ เพื่อยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลังศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือชนิดนี้อยู่นานปี Juan Sanz นักออกแบบอุตสาหกรรมจากเมืองบาร์เซโลนาก็พบว่า เตียงสนามที่บรรดาองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกนิยมใช้มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ Camp Bed กับ Disc-o-Bed ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 50-100 ยูโร (ประมาณ 1,900 -3,800 บาท) และ 150-200 ยูโร (ประมาณ 5,700 – 7,600 บาท) ตามลำดับ และทั้งหมดประกอบขึ้นจากวัสดุหลักอย่างโลหะและผืนผ้า แน่นอนว่า เมื่อถึงคราวต้องการใช้งานเป็นจำนวนมากมันจึงค่อนข้างมีข้อจำกัดด้านปริมาณและการขนส่ง เขาจึงครุ่นคิด คิดค้น ก่อนออกแบบเตียงสนามจากกระดาษแข็ง ‘Humanitaria’ ที่สามารถหักลบหลบข้อด้อยต่างๆ ข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นด้านวัสดุที่ประหยัดต้นทุนการผลิต ติดตั้งฉับไว ขนส่งง่าย แถมรองรับน้ำได้เหนือกว่า
หลายคนอาจสงสัยว่า เตียงสนามกระดาษแข็งจะดีกว่าเตียงสนามโลหะได้อย่างไร คำตอบของเรื่องนี้คงต้องอธิบายไล่เรียงตั้งแต่กระบวนการผลิตที่สามารถผลิตได้มากถึง 1,000 ชิ้นต่อชั่วโมง และโรงงานผลิตบรรจุภัณฑจากกระดาษแข็งทุกแห่งสามารถผลิตได้ ตรงกันข้ามในการผลิตเตียงสนามโลหะจำนวน 1,000 เตียงอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ และผลิตกับโรงงานที่เหมาะสม แถมเรื่องน้ำหนักของวัสดุที่เบาบางกว่าก็พาให้การจัดส่งสะดวกสบาย โดยเตียงสนามกระดาษแข็งจำนวน 100 เตียง สามารถวางเรียงซ้อนกันได้บน ยูโร พาเลท หรือพาเลทแบบเล็ก
แล้วเมื่อถึงจุดหมายปลายทางก็คว้ามาประกอบกันง่ายๆ เสร็จสรรพภายในเวลา 5 วินาที ด้วยสองมือแบบไม่พึ่งอุปกรณ์เสริมใดๆ ขณะที่ Camp Bed อาจต้องใช้ 2-5 นาที และ Disc-o-Bed อาจต้องมี 15-20 นาที ยิ่งไปกว่านั้น Humanitaria ยังถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้กว่า 350 กิโลกรัม ซึ่งศักยภาพการรองรับมากกว่าเตียงสนามโลหะเกินเท่าตัว ที่สำคัญคือราคาย่อมเยาว์แค่ 17 ยูโร (ประมาณ 685 บาท) รวมทั้งยังสามารถรีไซเคิลและย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% – ปรบมือรัวๆ เลยสิครับ
อ้างอิง: core77, designboom
