ลบบาดแผลจากสงครามด้วยงานศิลปะ เติมชีวิตและความหวังให้เมืองเบรุตในเลบานอน

คงไม่มีใครอยากมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสงครามและความรุนแรงแต่บางทีชีวิตก็ไม่มีทางเลือก จำต้องทนและอยู่กับเหตุการณ์นั้นให้ได้ และถึงแม้จะผ่านช่วงเวลาเจ็บปวดมาแล้วก็ตาม ภาพทรงจำเหล่านั้นยังคงหลอกหลอนอยู่ โดยหลงเหลือเป็นซากอันปวดร้าวใจไว้ให้เห็นตามที่สาธารณะเช่น ท้องถนน ผนังตึกอาคารอย่างเช่นที่เบรุต ประเทศเลบานอน ที่นี่เคยเผชิญกับสงครามกลางเมืองยาวนาน บางมุมของเมืองเต็มไปด้วยรอยกระสุน น่าจะมีวิธีที่จะช่วยเยียวยาบาดแผลเหล่านั้นให้เจือจางลงได้บ้าง  นึ่จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ Jad El Khoury ต้องการสื่อสารเรื่องสงครามและสันติภาพ สะท้อนภาพสังคมเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเปลี่ยนมุมมองในอดีตที่ไม่น่าจดจำของผู้คนด้วยวิธีการทางศิลปะ

Jad El Khoury เกิดที่เมือง Baabda ในประเทศเลบานอน เป็นทั้งศิลปิน นักออกแบบภายใน และสถาปนิก ปัจจุบันทำงานอยู่ในประเทศคูเวต ด้วยสไตล์งาน Doodle Art ลากลายเส้นอิสระตามจินตนาการสร้างตัวการ์ตูนแฝงอารมณ์ขัน และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Potato Nose จนกลายเป็นชื่อเรียกของเขาไปด้วย เขานำคาแรคเตอร์พวกนั้นไปแปะอยู่กับรูกระสุนทั้งหลายตามซากอาคารในเมือง ลบคราบสงครามให้เป็นงานสร้างสรรค์ นอกจากพูดถึงเรื่องความรุนแรง สงคราม และสันติภาพแล้ว บางชิ้นก็สะท้อนปัญหาสังคมอื่นๆ ด้วยเช่น ‘Single Man’ พูดเรื่องปัญหาคอรัปชั่น และนี่เป็นการนำเสนอผลงานล่าสุดของเขา อาจจะแตกต่างจากชิ้นก่อนไปบ้างแต่ยังคงมีเนื้อหาพูดถึงสันติภาพอยู่

บนอาคาร Burj El Murrs เรียกสั้นๆ ว่า Murr Tower เป็นอาคารสูงระฟ้าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าของเมืองเบรุต ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำนักงานของบริษัทต่างๆ ตั้งแต่ปี 1974 กลับต้องร้างลงเพราะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในช่วงเวลานั้นพอดี เป็นภาพที่ชวนหดหู่ที่ต้องมองตึกนี้ โดยเฉพาะตามช่องหน้าต่างทั้งหลายซึ่งเคยถูกใช้เป็นจุดซุ่มดักยิงคร่าชีวิตผู้คนของเหล่าสไนเปอร์

Khoury จึงใช้พื้นที่ตรงนั้นแสดงงานศิลปะเพื่อหยุดความรุนแรงเสียเลย เขาปรับเปลี่ยนภาพช่องสี่เหลี่ยมที่เคยดำทะมึนจำนวนมาก ให้กลายเป็นผืนผ้าหลากสีสันพลิ้วลมราวกับเริงระบำ เพื่อบอกผู้คนว่าแทนที่จะจมอยู่กับความโศกเศร้าในอดีตหันมามีกำลังใจในก้าวไปกับชีวิตจะดีกว่า บนโครงสร้างอาคารระฟ้านี้ช่วยกระพือสีสันเหล่านั้นให้โดดเด่น และอีกนัยหนึ่งเป็นการตั้งคำถามกับคนที่ต้องรับผิดชอบว่า จะปล่อยให้ซากผุกร่อนเหล่านั้นคงไว้อย่างเดิมหรือหาวิธีแก้ไข คงไม่มีประโยชน์อะไรที่ปล่อยให้ความปวดร้าวหลอกหลอนชีวิตอยู่อย่างนั้น เพราะชีวิตยังมีความหวังและความสงบสุขรออยู่เสมอ

อ้างอิง: Facebook: Jadel5ourydesignmena.com

วรัญญู อุดมกาญจนานนท์

Art may not be the only way to brighten the world, but it is essential to create a beautiful life. รักงานสร้างสรรค์อิสระ...งานเขียนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวหนังสือคือความคิดที่เชื่อมโลกกับเราไว้ด้วยกัน

See all articles