แม้สังคมจะได้รับข้อมูลมากมายถึงพิษภัยของการเสพติดมือถือ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมีพฤติกรรมเล่นมือถือทั้งวันเหมือนเดิม จำเป็นต้องมีการเตือนบ่อยครั้งด้วยวิธีการที่หลากหลาย อย่างใน Like and Fallow นี้ หนังแอนิเมชันภาพสดใสนำเสนอภาพมุมกลับถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมาร์ทโฟนกับผู้ใช้ด้วยอารมณ์ขำแนวตลกร้าย
จากประสบการณ์ตรงของผู้กำกับฯ Tobias Schlage ที่แรกเริ่มเขาก็ไม่สนใจโลกออนไลน์ ไม่ติดสมาร์โฟน จนกระทั่งต้องเดินทางไกลทางรถไฟหลายชั่วโมง เขาได้ยืมมือถือเก่าของน้องชายมาใช้เพื่อฆ่าเวลา ในระหว่างเดินทางนั้นเองโลกของเขาก็เปลี่ยนแบบกลับหัวกลับหางกลายเป็นคนติดมือถือไปในทันที จากที่เคยสนใจต้นไม้ ผู้คน และสิ่งแวดล้อมรอบตัว กลับต้องเป็นคนก้มหน้าจมอยู่กับจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ อย่างโงหัวไม่ขึ้น สร้างความประหลาดใจให้ตัวเขาอย่างมาก เขาเกิดสงสัยขึ้นว่าบางทีคนอาจไม่ใช่ผู้บริโภคมือถือแต่เป็นมือถือต่างหากที่กำลังบริโภคชีวิตของเราอยู่
ผู้คนจำนวนมากเสพติดมือถือสนใจหน้าจอวันละหลายชั่วโมงจนลืมโลกจริง ไอเดียนี้ถูกนำมาสู่การวางโครงเรื่อง Like and Fallow โดยร่วมกันเขียนบทและสร้างงานกับ Brent Forrest และคาดหวังว่าจะเป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้คนสังคมรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น ไม่หลงติดกับมือถือจนเกินไป พวกเขาสร้างตัวละครเด็กหนุ่มน้อยที่กำลังโดนมือถือจูงจมูกไปในที่ต่างๆ ราวกับทาส ถึงจะค้นพบอิสรภาพได้ทว่าก็เป็นเพียงเรื่องตลกร้ายหักมุมให้ผู้ชมนำไปคิดต่อ ไม่ต้องสงสัยว่าหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จกวาดรางวัลจากเทศกาลประกวดหนังสั้นมากมาย เช่น เทศกาลหนัง Fortean ปี 2021 และที่เทศกาลหนังนานาชาติ Kautik อีกทั้งได้รับเสนอชื่อเข้าชิงอีกอีกหลายรางวัล
ขณะที่ธุรกิจมือถือกำลังแข่งขันทางการตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ บรรดาแอปและเกมบนมือถือต่างพาเหรดกันออกมา เพื่อฉุดกระชากใจผู้บริโภคให้หลงอยู่กับโลกบนหน้าจอทั้งวันจนลืมการใช้ชีวิตที่ควรเป็น บางทีก็ทำให้พลาดโอกาสดีในการออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือทำกิจกรรมสังคมอื่น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสำรวจพฤติกรรมของตัวเองแล้วว่า ตอนนี้…เราเสพติดมือถือแล้วหรือยัง
อ้างอิง: www.imdb.com, forrest-schlage.com
