ต่อแถวจากแนวคิดเพื่อการใช้ชีวิตดีๆ อย่าง Hygge และ Lagom ล่าสุดชาวสแกนดิเนเวียนนำเทรนด์ใหม่มาสู่วงการวิ่งออกกำลังกายกันอีกครั้ง! เทรนด์ฮ็อตประจำปี 2018 นี้มีชื่อเรียกว่า ‘Plogging’ ซึ่งผสมรวมเอาการ ‘วิ่งเพื่อสุขภาพ’ กับการ ‘เก็บขยะช่วยโลก’ มาไว้ด้วยกัน (Plogging มาจากการเล่นผสมคำภาษาสวีเดนโดยรวมคำว่า Jog – วิ่ง กับ Plocka upp ที่แปลว่า ‘เก็บ’ มาควบรวมกัน)
แน่ล่ะว่ากิจกรรมการออกกำลังกายสไตล์สร้างสรรค์แบบนี้กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่ได้ยินว่านักวิ่งสายรักษ์โลกทั้งหลายก็พร้อมใจเกาะเทรนด์ Plogging นี้กันแล้วอย่างสนุก
ถามว่าแล้วการ ‘วิ่งไป…เก็บขยะไป’ แบบนี้ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง? แล้วมันทำให้เป้าหมายการเผาผลาญแคลลอรี่ของคุณตกต่ำลงรึเปล่า? Plogger ชาวยุโรปที่ทดลองการวิ่งรูปแบบใหม่นี้มาระยะหนึ่งแล้วเคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า “จากสถิติผลลัพธ์ด้านสุขภาพนั้นมันแทบไม่แตกต่างจากการวิ่งปกติเลย แถมคุณยังได้ฝึกเคลื่อนไหวแบบในคลาสฟิตเนสไปด้วยในตัว (จากการย่อตัว-ก้มเก็บขยะเช่นพวกขวดน้ำ กระป๋องน้ำอัดลม ฯลฯ) ที่สำคัญคุณไม่จำเป็นต้องอัพเกรดอุปกรณ์อะไรเพื่อจะเป็น Plogger ที่ดีเลย แค่พก ‘ถุง’ หนึ่งใบไว้ใส่ขยะ กับใส่ ‘ถุงมือ’ อีกสักคู่เพื่อกันสิ่งสกปรกหรือของมีคมก็พอแล้ว”
Erik Ahlström หนุ่มชาวสวีดิชผู้โปรโมทเทรนด์ Plogging นี้เคยพูดถึงไอเดียแรกเริ่มของเขาว่า เกิดจากการที่เขาย้ายที่อยู่จากต่างจังหวัดเข้ามาในเมืองหลวง (สต็อกโฮล์ม) แล้วพบว่าถนนหนทางในเมืองมันช่างแสนสกปรก เขาจึงชวนเพื่อนฝูงนักวิ่งที่คุ้นเคยกันมาตั้งกลุ่ม ‘วิ่งเก็บขยะ’ กันเองแบบง่ายๆ …แต่แล้วเทรนด์ plogging มันก็ระเบิดตูมขึ้นจากจุดนั้น
ล่าสุดแม้แต่ fitness app อย่าง Lifesum ก็เปิดให้ผู้ใช้เก็บสถิติการออกกำลังกายด้วยวิธี plogging นี้เป็นที่เรียบร้อย โดยอัตราการเผาผลาญพลังงานเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 288 แคลลอรี่ต่อการ plog ประมาณ 30 นาที ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการ jogging ทั่วไปนัก
“ชาวเมืองทั้งหลายน่ะไม่มีใครโอเคกับขยะสกปรกตามท้องถนนหรอก แต่พอมาคิดว่าฉันจะต้องเก็บมันไปทิ้งด้วยมือตัวเอง…หลายคนก็ถอดใจ” แต่ Ahlström เชื่อว่าหากพวกเขาโปรโมทกิจกรรมนี้ให้มันกลายเป็น ‘ความชิค’ ขึ้นมาได้ การช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้บ้านเมืองดูสะอาดตาก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป “องค์กรต่างๆ จะหลั่งไหลเข้ามาช่วยโปรโมทกิจกรรมนี้ และเชื่อมโยงมันเข้ากับ CSR ของพวกเขาในอนาคต”
ก็จริงของเขานะ เราเห็นกันมาเยอะแล้วว่าการวิ่งมาราธอน (โดยเฉพาะของพี่ตูน) สามารถระดมทุนเพื่อสิ่งดีๆ ได้ขนาดไหน – ได้เวลาเริ่ม plog กันแล้วมั้ยพวกเรา ?
อ้างอิง: Facebook:Plogga,Plogga.se