แค่กระดาษทิชชู่แผ่นบางๆ จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขนาดไหนกัน?
เพราะเป็นของชิ้นเล็กๆ ที่หยิบใช้จนชินในชีวิตประจำวันจึงอาจทำให้หลายคนมองข้าม แต่หากลองทบทวนดูให้ดีจะพบว่าบรรดาทิชชู่ทั้งหลายแหล่ต่างเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษแบบใช้แล้วทิ้ง ไม่สามารถนำกลับมีรีไซเคิลได้ใหม่ สืบค้นลึกลงไปกว่านั้นกระดาษเหล่านี้ล้วนผลิตจากเยื่อกระดาษซึ่งต้องแลกมาด้วยการตัดต้นไม้อันเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศชั้นดีให้แก่โลก
Reel Paper บริษัทผลิตกระดาษในสหรัฐอเมริกาตระหนักถึงปัญหาข้างต้น พร้อมเผยข้อมูลว่าเพียงการผลิตกระดาษชำระอย่างเดียวทำลายต้นไม้ไปมากถึง 27,000 ต้นต่อวัน หรือเท่ากับเกือบ 10,000,000 ต้นต่อปี ในขณะที่ป่าสมบูรณ์มีต้นไม้อยู่ราว 50 ต้นต่อเอเคอร์ นั่นแปลว่าเราจะสูญเสียพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ถึง 200,000 เอเคอร์ต่อปี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีขนาดกว้างใหญ่เทียบเท่ามหานครนิวยอร์กเลยทีเดียว
การแลกสุขอนามัยและความสะดวกสบายกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองเกินควรนี้ จุดประกายให้ Reel Paper พยายามทดลองและออกแบบความเป็นได้ใหม่ๆ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่จากไม้ไผ่ที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เพราะไม้ไผ่จัดเป็นหนึ่งในพืชที่โตเร็วที่สุดในโลก อาศัยน้ำน้อยในการเจริญเติบโต และสามารถนำมาแปรรูปกระดาษได้ทันทีเมื่อมีอายุ 3-5 ปี ที่สำคัญคือไม่ต้องปลูกใหม่หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ตรงกันข้ามกับการผลิตด้วยเยื้อไม้แบบเดิมที่ต้องรอระยะเวลาสมบูรณ์ของต้นไม้นานกว่าและการตัดโค่นก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์มากกว่าด้วย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่จากไม้ไผ่ของ Reel Paper มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ กระดาษเช็ดหน้า กระดาษเช็ดมือ และกระดาษชำระ ที่ทางบริษัทยืนยันว่าเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ทนต่อการฉีกขาด ปราศจากสาร BPA สารคลอรีน น้ำหอม หมึกพิมพ์หรือสีย้อม อีกทั้งเลือกใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพื่อลดขยะพลาสติก ยิ่งกว่านั้นเมื่อสิ้นสุดรอบการผลิต Reel Paper ยังยินดีชดเชยการปล่อยคาร์บอน 100% ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการขนส่งสินค้าในต่างประเทศผ่านพันธมิตร Flexport และมูลนิธิ Carbonfund โดยการออกแบบทั้งหมดนั้นวางอยู่บนแนวคิดการรักษาผลิตภัณฑ์ให้เป็นธรรมชาติ สามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ประโยชน์ได้ใหม่ และตั้งใจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้