การประชุมสุดยอดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Climate Change Conference หรือ COP26) ที่ถูกเลื่อนมาจากปีที่แล้วเพราะพิษโควิด มีกำหนดจะจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ ณ เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์
แต่ก่อนจะไปถึงการประชุมในช่วงปลายปี เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ชาวบริติชหลายคนที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ออกมาเคลื่อนไหวสร้างสีสันอุ่นเครื่องกันแล้ว โดยพวกเขาจับมือกับกลุ่มศิลปินประติมากรรมทรายจาก Sand In Your Eye ร่วมกันสร้างประติมากรรมน้ำแข็งรูปเด็กตัวเล็กๆ ขึ้นมา 26 ชิ้น และเขียนข้อความขนาดใหญ่ลงบนผืนทรายที่หาด New Brighton บนแหลม Wirral เพื่อส่งข้อความไปยังเหล่าผู้นำที่จะมาเข้าร่วมประชุมในครั้งนั้น
จำนวนประติมากรรม 26 ชิ้น ก็คือการประชุมฯ ครั้งที่ 26 ที่จะเกิดขึ้น ส่วนที่ต้องเป็นประติมากรรมรูปเด็กทำจากน้ำแข็งก็เพราะพวกเขาต้องการสื่อถึงเด็กๆ ที่มีอนาคตอันเปราะบางน่าเป็นห่วงเหมือนกับน้ำแข็งที่ค่อยๆ ละลายลงทุกนาที หากว่าประเทศต่างๆ ยังไม่ร่วมมือกันทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อันมีที่มาจากกิจกรรมหลากหลายของมนุษย์ที่ล้วนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศอย่างทุกวันนี้
บนชายหาดที่มีประติมากรรมน้ำแข็ง 26 ชิ้น จัดวางอยู่ ยังมีข้อความขนาดใหญ่ที่เขียนลงบนทรายโดยฝีมือของ Sand In Your Eye ว่า “COP26, NET ZERO 2050, make a plan for our future” ซึ่งก็หมายถึงการเรียกร้องให้นานาประเทศช่วยกันหยุดกิจกรรมการผลิตต่างๆ ที่เป็นการเพิ่มก๊าซเรือนกระจก เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การเผาไหม้ด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลในอุตสาหกรรมต่างๆ และการทำปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อให้ในปี 2050 โลกของเราจะมีความสมดุลของก๊าซเรือนกระจก (หมายถึงมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกไปเท่ากับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกดึงออกจากชั้นบรรยากาศ) และเพื่อที่เด็กๆ ของเราจะได้มีอนาคตที่สดใสท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้
ในวันที่จัดกิจกรรมเหล่านี้บนชายหาด New Brighton มีพ่อแม่จูงลูกหลานมาดูประติมากรรมน้ำแข็งกันหลายครอบครัว และเด็กๆ ก็ยังร่วมกันเขียนชื่อของผู้นำจากประเทศต่างๆ ลงบนแผ่นกระดาษ แล้วยืนถือเคียงข้างประติมากรรมน้ำแข็งรูปเด็ก เพื่อเป็นการเรียกร้องให้บรรดาผู้นำเห็นความสำคัญของปัญหาก๊าซเรือนกระจกที่กำลังทำร้ายโลกเราอยู่อย่างจริงจังเสียที
ประติมากรรมทั้งหมดจัดแสดงอยู่บนชายหาดไม่ถึง 24 ชั่วโมง เพราะเมื่อถึงเวลาที่น้ำทะเลขึ้น มันก็จะถูกซัดกลืนหายไปกับทะเล… เพียงแต่พวกเขาก็หวังว่า ประติมากรรมอันเปราะบางที่ถูกทำลายลงจะช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงอนาคตของโลกที่เปราะบางไม่แพ้กัน และหวังว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันรักษาโลกใบนี้ไว้ เพื่อไม่ให้ชะตากรรมแบบเดียวกันกับประติมากรรมน้ำแข็งนั้นเกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา
ที่มา: guernseypress.com , metro.co.uk , greenpeace.org