‘เภสัชฟลุคกี้’ สุทธิศักดิ์ จำปา ทำเรื่องสุขภาพและยาให้สนุกเข้าใจง่ายด้วย TikTok

ในช่วงเวลาของการกักตัวเองอยู่ในบ้านระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากการดิ้นรนให้ตัวเอง ครอบครัว และสังคมอยู่รอดปลอดภัยจากแรงกระเพื่อมหนักๆ ของโรคเกิดใหม่นี้ รวมไปถึงการต้องยืนหยัดท่ามกลางความชะงักงันของหลายๆ ธุรกิจ ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง ใครหลายคนหันมาปรับตัวกับอาชีพเดิมของตนด้วยมุมมองใหม่ๆ อีกหลายๆ คนค้นพบความสามารถฟ้าประทานที่แอบซ่อนอยู่ของตัวเองจนเกิดเป็นรายได้ทางรอง ในเวลาเดียวกันนี้ ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่นำความรู้ความสามารถที่ตัวเองมีมาส่งต่อเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในวงกว้าง

“เภสัชฟลุคกี้ หนึ่งนาทีนี้มีคำตอบแน่นอนค่ะ” คำทักทายสั้นๆ ของ สุทธิศักดิ์ จำปา หรือคุณฟลุคกี้ บนหน้าฟีด TikTok ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แพลตฟอร์มดังกล่าวที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุกสนานจากเหล่าสมาชิกที่งัดเอาสกิลการร้อง เต้น คัฟเวอร์บุคลิกท่าทางจนหลายคนเฉิดฉายในฐานะดาว TikTok เท่านั้น เพราะแอคเคาน์ @flukiie เป็นสมาชิกรายแรกๆ ของแพลตฟอร์มที่ว่านี้ที่นำเอาความรู้ด้านสุขภาพมาส่งต่อให้ผู้คนด้วยวิธีการใหม่ พร้อมคอนเทนต์แสนสนุก สุดกระชับ ขณะที่ยังคงสาระได้แบบจัดเต็ม

จากบทบาทหมอยาสู่เภสัชฟลุคกี้บนหน้าฟีด TikTok

“ฟลุคเกิดที่เชียงใหม่ เรียนที่นั่นตั้งแต่เด็กจนเรียนจบคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พอเรียนจบก็เริ่มทำงานเลย งานแรกเป็นผู้แทนยา ทำอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นสนุก ได้ประสบการณ์เยอะ และให้ประโยชน์กับเรามากๆ หลังจากนั้น ฟลุคตัดสินใจกลับมาเชียงใหม่เพื่อมาอยู่กับคุณแม่ แล้วก็อยากจะทำอะไรที่ก้าวหน้ามากขึ้น เป็นเจ้านายตัวเองได้ เลยเปิดร้านยา ซึ่งพอเปิด ก็ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาจริงๆ แต่ทำได้ 2 ปี ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่ตัวเอง

ฟลุคเป็นคนที่ค้นหาตัวเองไปเรื่อยๆ ฟลุคมีความเชื่อว่าวันนี้เราชอบทำสิ่งนี้ อีกปีข้างหน้าเราอาจจะไม่ชอบแล้วก็ได้ ฟลุคเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เพราะฉะนั้น ฟลุคเลยไม่ยึดติดว่าเราเป็นผู้แทนแล้ว เราจะเป็นผู้แทนตลอดไป เราเปิดร้านยาแล้วเราจะปิดไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งฟลุคไม่ได้รู้สึกชอบ ไม่ได้รู้สึกอินแล้ว ก็จะออกไปค้นหาตัวเองอีก ซึ่งพอปิดไปแล้ว ตัวเองก็ยังรับงานพาร์ททามร้านยาอยู่บ้างเพื่ออัพเดทความรู้ตัวเอง ไม่ได้ทิ้งไปเลย แล้วก็ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนกันนะในการพยายามค้นหาตัวเอง

หลังจากที่ทำงานมาหลายๆ แบบในสายงานเภสัช ตั้งแต่ฝึกงานในโรงพยาบาล เป็นผู้แทน เปิดร้านยา ฟลุคก็มานั่งคิดว่า มีจุดไหนในสายงานเภสัชที่เราน่าจะทำได้อีกไหม นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้ามาลองทำ content creator บนแพลตฟอร์มออนไลน์เพราะอยากจะใช้ความรู้ของเราในรูปแบบใหม่

ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าเภสัชกรจะแต่อยู่ในโลกออฟไลน์ ทั้งในห้องยา โรงพยาบาล คลินิก ร้านยา ซึ่งฟลุคคิดว่าหากเราลองนำความรู้มาสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ ประโยชน์น่าจะไปได้ไกลและมากขึ้น ก็เลยลองไปทำคอนเทนต์ลงยูทูปและเฟซบุ๊กก่อน ซึ่ง 2 ช่องทางนี้จะเน้นการให้ความรู้แบบจริงจังเลย แต่ผลตอบรับยังไม่เยอะเท่าที่ควร จนกระทั่งมาพลิกจริงๆ คือช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาที่ทุกคนต้องอยู่บ้าน ฟลุคเริ่มเล่น TikTok ตอนนั้นเราเห็นว่าแพลตฟอร์มนี้มาใหม่ ซึ่งถ้ามองในแง่ธุรกิจก็ยังไม่ใช่ทะเลที่แดงเดือด คู่แข่งยังไม่มาก ซึ่งภาพของ TikTok จะเป็นแอปพลิเคชันที่สนุกสนาน มาเต้น ร้องเพลง ลิปซิงค์ แต่ยังไม่มีคนมาจับเรื่องการให้ความรู้กับคน ก็คิดว่าเราก็ทำมาหลายแพลตฟอร์มแล้ว ลองเสียหน่อยแล้วกัน”

“เภสัชฟลุคกี้ หนึ่งนาทีนี้มีคำตอบแน่นอนค่ะ

“ธรรมชาติของแพลตฟอร์มนี้จะกำหนดมาว่าเรามีเวลา 1 นาที เป็นแอปพลิเคชันที่คนจะเลื่อนผ่านเร็วมาก ฉะนั้น การนำเสนอเรื่องยาเรื่องสุขภาพที่ปกติจะเข้าใจยาก ต้องถูกลดทอนให้สั้น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น ที่สำคัญคือความสนุกตามธรรมชาติของแพลตฟอร์มนี้ยังต้องอยู่ ซึ่งก็มีคนแนะนำว่าถ้าจะทำ TikTok ให้มีคนติดตามเยอะ เราต้องแบ่งเรื่องแยกย่อย เช่น ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมี 5 ข้อ แบ่งออกเป็น 5 คลิปเลย แล้วพูด 1 ข้อให้จบในหนึ่งคลิป”

แอคเคาน์ @flukiie เปิดตัวเรื่องสุขภาพเรื่องแรกบน TikTok กับการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องฟ้าทะลายโจรว่าสามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้จริงไหม ตามมาด้วยเนื้อหาที่รับรองว่าใครต่อใครก็คงจะเคยสับสนกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสไปร์ทใส่เกลือแก้ท้องเสียได้จริงหรือเปล่า? อีโนทานตอนฟองฟู่หรือฟองหมด? ทิฟฟี่หรือดีคอลเจนดีกว่ากัน เป็นต้น

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6823762445262195969

“อาจเพราะการเริ่มทำด้วยชุดความคิดนี้ รวมถึงการหยิบยกเนื้อหาใกล้ตัวที่เจอมากับตัว และด้วยจังหวะที่ฟลุคเป็นคนแรกที่เป็นเภสัชกรแล้วมาทำเนื้อหาให้ความรู้ด้านสุขภาพบน TikTok เลยทำให้ไปได้ค่อนข้างไว เหมือนได้ก้าวก่อนคนอื่นก้าวหนึ่ง ขณะเดียวกัน ทาง TikTok เองก็ช่วยโปรโมทว่าทางแพลตฟอร์มนี้ก็มีคอนเทนต์ในเชิงสาระความรู้เช่นเดียวกัน และเรื่องสุขภาพกลายเป็นสิ่งที่ในเวลานี้มีคนให้ความสนใจมากๆ ด้วย”

ให้ความรู้ผ่านการจัดแบ่ง 3 หมวดสำคัญ

สำหรับเนื้อหา ฟลุคกำหนดไว้ 3 หมวด หมวดแรกจะเป็นเรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับยา เช่น พาราต้องทาน 1-2 เม็ด ทีนี้ก็มักมีคำถามว่า แล้ว 1-2 เม็ด แล้วต้องทานกี่เม็ดล่ะสำหรับคนที่น้ำหนักต่างกัน เพศต่างกัน หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ขายในร้านสะดวกซื้อสามารถบรรเทาอาการท้องเสียได้ไหม ซึ่งหลายๆ เรื่องคนยังเข้าใจผิดและไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องอยู่

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6826683249327131906

หมวดที่ 2 เป็นความตั้งใจแรกของฟลุคเลยก็คือเรื่องการคุมกำเนิด ฟลุคอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็น movement บางอย่างเพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ฟลุคเจอเคสแบบนี้เยอะตอนที่ทำร้านยา ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลมากต่อสังคม เอาจริงๆ นะ การคุมกำเนิดไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ความรู้พื้นฐานที่ว่านี้ยังเข้าไม่ถึงคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งใน TikTok มีเด็กเล่นเยอะ การได้พูดเรื่องนี้ฟลุคหวังว่าจะทำให้ความรู้สามารถกระจายสู่กลุ่มที่เป็นเป้าหมายได้โดยตรง

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6895339779509046530

อีกหมวดหนึ่งจะเป็นประเด็นที่กำลังเป็นกระแสในสังคมในช่วงเวลานั้นๆ เช่น เรื่องฟ้าทะลายโจร การสวมหน้ากากอนามัย หรือการเสียชีวิตของคุณศรัณยู วงษ์กระจ่าง เราก็หยิบยกในเรื่องเหล่านั้นมาพูดให้คนในสังคมได้รับข้อมูลและตระหนักเรื่องนั้นๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ถ้ามีแคมเปญอะไรของ TikTok ออกมา เราก็จะร่วมกับเขาด้วย เช่น แคมเปญลดโลกร้อน เป็นต้น”

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6837352106882567426

ความเข้าใจผิดเรื่องยาในฐานะปัญหาระดับชาติ

“ความเข้าใจผิดเรื่องยาถือว่าเป็นปัญหาระดับมหภาคของระบบสาธารณสุขบ้านเราเลยนะ ตัวอย่างที่เจอบ่อยมากคือคนไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างยาแก้อักเสบกับยาฆ่าเชื้อ สมมติว่าเราเดินไปร้านยา บอกเภสัชว่า “เจ็บคอมาค่ะ ขอยาแก้อักเสบอะม็อกซี่ซิลลิน (Amoxicillin)” ก็ผิดแล้วนะ เพราะยาอะม็อกซี่คือยาฆ่าเชื้อ ซึ่งไม่จำเป็นว่าการเจ็บคอจะต้องทานยาฆ่าเชื้อ การเจ็บคออาจจะแค่คอบวมหรือใช้เสียงมาก ซึ่งทานยาลดปวดลดอักเสบทั่วไปได้ แต่เรามักเข้าใจผิด ซึ่งถ้าคนทานยาฆ่าเชื้อบ่อยๆ แล้วคิดว่ายานี้เป็นยาแก้อักเสบมีจำนวนมากๆ ประเทศไทยจะมีคนดื้อยานี้เยอะ นั่นหมายความว่าเชื้อโรคมันเก่งขึ้น เราก็จะจัดการเชื้อโรคได้ยากขึ้นด้วย นี่แค่เรื่องเดียวนะ”

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6848210391026224386

“ความเชื่อ” หนึ่งอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง

“อุปสรรคสำคัญของเรื่องสุขภาพคือความเชื่อ เช่น อย่าดื่มน้ำเย็นตอนมีประจำเดือน เป็นไข้อย่าเช็ดตัว ซึ่งเป็นความเชื่อที่เราถูกปลูกฝังมา บอกต่อๆ กันมา ถึงความเชื่อนั้นจะเป็นเรื่องที่ถูกหรือผิดก็ตาม ถ้าเราเชื่อไปแล้ว เราก็จะนำมาปฏิบัติกับตัวเอง ทีนี้ถ้าเราพูดตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ถึงแม้ว่าเรามั่นใจเราถูกร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน มีหลักฐานรับรอง แต่เรากำลังต่อสู้กับความเชื่อของคนที่ฟังเรา เพราะฉะนั้นเมื่อมีการส่งต่อความรู้ใดก็ตามที่ขัดกับความเชื่อเหล่านั้น ก็ย่อมมีคนมาแย้งอยู่แล้ว การเปลี่ยนความเชื่อของคนนี่ยากมาก อาจจะเปลี่ยนได้แต่คงไม่สามารถจะได้เปลี่ยนในคลิปหนึ่งนาทีหรือใต้คอมเมนท์นั้น เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาและช่องทางที่หลากหลายในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง”

สุขภาพดีเกิดขึ้นจากองค์ประกอบมวลรวมรอบตัว

“ฟลุคว่าสุขภาพของคนทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตเป็นหลัก เราทานอาหารฟาสต์ฟู้ดมากขึ้น ทานอาหารอุ่นร้อนแบบรีบเร่งมากขึ้น ซึ่งทุกอย่างส่งผลต่อสุขภาพ คุณปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสุขภาพเป็นเรื่องไกลตัวเพราะว่าสุขภาพเป็นเรื่องของตัวคุณเอง ฉะนั้นแล้วปัญหาสุขภาพของคนไทยคือการใช้ชีวิต แต่ฟลุคไม่ได้บอกนะว่าคุณห้ามทานอาหารขยะ เพียงแต่เราก็ต้องดูว่าเราทานมากน้อยแค่ไหน ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่จัดการได้

ส่วนอีกปัญหาหนึ่งคือปัจจัยภายนอก อย่างเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เราควบคุมมันได้ยากหน่อย เช่น PM 2.5 ซึ่งคนเชียงใหม่ต้องอยู่กับปัญหาเรื่องฝุ่นมาตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการจัดการบริหารของภาครัฐ ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ประชาชนทุกคนจะสามารถซื้อเครื่องฟอกอากาศได้ บางคนยังไม่มีเงินซื้อหน้ากากเลยด้วยซ้ำ บางคนจะพูดว่าให้เริ่มที่ตัวเราเองก่อน แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้ทั้งหมด เราไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปทำให้ฝุ่นหายไป ที่ทำได้ก็อาจเริ่มที่สวมหน้ากากแล้วกัน แต่ก็ได้แค่นั้น หรือต้นไม้ที่หายไปก็กระทบไปถึงเรื่องระบบทางเดินหายใจ เพราะฉะนั้น ฟลุคมองว่าทุกอย่างเกี่ยวโยงกันหมด การที่คนเราจะมีสุขภาพดีต้องดูองค์รวมว่า จริงๆ แล้วคุณอาศัยอยู่ที่ไหน คุณทานอาหารอะไร คุณมีความเชื่ออย่างไร กิจกรรมในชีวิตคุณมีอะไรบ้าง ทุกอย่างสัมพันธ์กันหมด ถ้าให้แนะนำ ก็ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด”

“คุมกำเนิด” ความรู้พื้นฐานที่ไม่เข้าถึงประชาชน

“เรื่องหนึ่งที่ฟลุคมีความตั้งใจมากๆ คือการให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดกับประชาชน เพราะตอนที่เปิดร้านยา เราได้เจอกับปัญหานี้มากเลย มีคนไข้มานั่งร้องไห้กับเภสัชกรเป็นชั่วโมงว่ามีวิธีไหนไหมที่จะไม่เก็บลูกไว้เพราะเขาท้องแบบไม่ตั้งใจ หรือแม้แต่มีคนมาซื้อยาบำรุงเลือด มาซื้อทุกวัน เราก็จะจับสังเกตได้ ก็ต้องลองถามเขาตรงๆ ซึ่งเขามีความเชื่อว่าจะทำให้ขับเลือดขับเด็กได้ ซึ่งไม่จริง แต่ยิ่งจะเป็นอันตรายต่อแม่และลูกมากกว่าอีกถ้าดื่มเยอะไป เราให้คำตอบเขาได้อย่างเดียวก็คือต้องไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาล เพราะว่าการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยยังไม่มี ที่มีก็ไม่แนะนำอยู่แล้วเพราะว่าเสี่ยงต่อชีวิตและผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำได้คือการให้กำลังใจเขา แต่สิ่งที่น่าตกใจในเรื่องนี้ คือเขาไม่รู้จักวิธีการคุมกำเนิด เพราะบางคนอาจเป็นคนนอกเมือง เป็นคนต่างด้าว เป็นชาวเขา เขาไม่รู้วิธีการคุมกำเนิดอะไรเลย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะท้องลักษณะนี้ได้ พอท้องมาแล้ว เด็กคนนี้จะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีหรือเปล่าเมื่อคุณแม่ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องวัยและทุนทรัพย์ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นปัญหาสังคม”

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6837430543559200002

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6843371243798891778

ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น

ถามว่าการเป็น content creator ยากไหม สำหรับฟลุค การเริ่มต้นอะไรใหม่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ง่าย แต่เมื่อสิ่งนั้นเราสนใจ เราชอบ เราก็จะขวนขวาย จากที่ไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไร ทำออนไลน์ไม่เป็น ฟลุคเริ่มมาเรียนรู้ทุกๆ อย่าง คิดเนื้อหา อัดคลิป ตัดต่อ ลองศึกษาคลิปของคนอื่นๆ ว่าเขานำเสนอแบบไหนกัน แล้วก็ลองมาพัฒนากับคลิปของเรา

แต่ฟลุคเป็นคนที่ทำอะไรฟลุคจะฟังเสียงจากใจตัวเองเสมอ มีครั้งเดียวที่ไม่กล้าทำตามใจตัวเองคือตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย จากที่ตั้งเป้าว่าจะเรียนการออกแบบเสื้อผ้า ตอนนั้นก็ถามตัวเองว่าความฝันเราเก็บไว้ก่อนไหม เอาความมั่นคงก่อนไหม จากตรงนั้นก็วางกระดานวาดรูปแล้วมาลงเอยกับการเป็นเภสัชกร ปัจจุบันเลยทำทุกอย่างตามที่ตัวเองเชื่อและชอบ ทุกวันนี้ศิลปะยังอยู่ในตัวเรา สำหรับฟลุคการทำคลิปก็คือศิลปะนะ และฟลุคไม่ปฏิเสธตัวตนของตัวเองเลย ไม่ได้พูดครับ ฉันเป็นอย่างนี้ ชอบแสดง ชอบใช้น้ำเสียง ชอบใช้ท่าทาง เอาทุกอย่างที่มีมาผสมรวมแล้วถ่ายทอดออกมาแบบที่เห็น และฟลุคคิดว่านี่คงเป็นสิ่งที่คนดูก็สัมผัสได้เหมือนกัน”

https://www.tiktok.com/@flukiie/video/6847836934279138562

ส่งต่อความรู้แม้เพียงแค่ 1 คนก็มีความหมาย

“สำหรับฟลุค การได้ส่งต่อความรู้ให้คนไข้เข้าใจเพียง 1 คนต่อวัน ก็ถือว่ามีความหมายและมีประโยชน์มากๆ แล้ว ซึ่งการที่ฟลุคมีโอกาสใช้เสียงของตัวเองในโลกออนไลน์ บนแพลตฟอร์มของเราที่มีคนตามหลักแสน แล้วคนดูเหล่านั้นได้ความรู้ที่ถูกต้องไปปฏิบัติและดูแลสุขภาพตัวเองได้สัก 10 คน จากจำนวนนี้ มันเกินที่เราคาดคิดเหมือนกันและเป็นสิ่งที่ฟลุคดีใจว่าตัวเองได้ทำ เพราะนอกจากความสุขที่ตัวเองได้ รวมทั้งได้เรียนรู้ทักษะหลายอย่าง ที่สำคัญคือเรายังให้ประโยชน์กับคนอื่นได้จริงๆ ด้วย”

ความฝันสูงสุดคือการเป็นแรงบันดาลใจให้ใครบางคน

“เอาจริงๆ เป้าหมายในการดำเนินชีวิตของฟลุค คือการมีโอกาสได้เป็นต้นแบบให้กับคนอื่นได้ ซึ่งการได้มาทำเป็น content creator ทำให้เราเข้าใกล้ความฝันมากขึ้นทีละนิด คนได้เห็นเรามากขึ้น ได้เห็นฟีดแบคดีๆ ที่เข้ามาในแต่ละวัน ก็ทำให้เราชุ่มชื้นใจนะว่าไม่ว่าจะมากหรือน้อย จะทางตรงหรือทางอ้อม เราอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจให้เขาได้ทำสิ่งที่สนใจและต้องการในชีวิต เช่น มีคอมเม้นท์หนึ่งเขียนมาว่า “หนูอยากเป็นเภสัชมากๆ เลยค่ะ ยิ่งดูพี่แล้วอยากเป็นมากๆ เลยค่ะ แนะนำหนูหน่อยได้ไหมคะ” คือน้องไม่ได้บอกหรอกว่าเราเป็นแรงบันดาลใจให้เขา แต่เราก็สัมผัสได้ว่ามันน่าจะเริ่มเข้าใกล้แล้วล่ะ อีกอย่างหนึ่ง ฟลุคอยากจะเป็นคนคนหนึ่งที่มีโอกาสได้สร้าง movement บางอย่างในบทบาทหน้าที่ที่เราเป็น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ ซึ่งฟลุครู้ว่าเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ แต่ฟลุคก็จะทำอย่างเต็มที่”

“เธอ” ผู้เป็นแรงบันดาลใจ  

“หนึ่งคนที่นึกถึงเสมอคือ ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ ท่านเป็นเภสัชกรเหมือนกัน มีคนเรียกท่านว่าเภสัชกรยิปซี เพราะว่าท่านใช้ทุนส่วนตัวไปวิจัยเรื่องยารักษาโรคเอดส์ในแอฟริกา ซึ่งตอนนั้นแอฟริกาเองก็มีปัญหาเรื่องการเมือง แต่ท่านก็เสี่ยงชีวิตไป

สิ่งที่ฟลุคได้เห็นจาก ดร. กฤษณา คือจิตวิญญาณที่ต้องการช่วยเหลือคนอื่น ท่านทำทุกอย่างที่ทำได้จนกระทั่งโรคที่ตอนนั้นหลายคนคิดว่าไม่มีทางรักษาได้ โรคที่มีจำนวนผู้ป่วยก็เยอะมาก และยารักษามีราคาแพง ในวันนี้มีคนเสียชีวิตจากโรคเอดส์น้อยลงมากและยารักษาได้ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสามารถซื้อยาได้ในราคาถูก ฟลุคอยากจะบอกว่าเป็นโชคดีของคนไทยที่มี ดร. กฤษณา

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ท่านลงมือทำทำให้ฟลุคเห็นว่า โอ้โห เภสัชกรคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ขนาดนี้เลยนะ และฟลุคมองท่านเป็นแรงบันดาลใจเพราะว่าเราเองก็อยากทำอะไรให้ยิ่งใหญ่ได้แบบนั้นเหมือนกัน ฟลุคเองก็ไม่รู้ว่าฝันมากไปไหม แต่คนเราต้องมีความฝัน และฟลุคก็ทำทุกวันเพื่อให้เข้าใกล้ความฝันนั้นทีละนิด”

เรื่อง: สุดาพร จิรานุกรสกุล / Sudaporn Jiranukornsakul
ภาพ: ศุภชัย เหล่ากุลรักษ์ / Zuphachai Laokunrak
Facebook: www.facebook.com/flukiiepharmacist

สุดาพร จิรานุกรสกุล

อดีตบรรณาธิการบทความนิตยสาร art4d magazine ปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระให้กับนิตยสารออนไลน์ด้านสถาปัตยกรรม ออกแบบ ศิลปะ สังคม และสุขภาพ ควบคู่ไปกับการสอนโยคะ พิลาทิส และติ๊กตอกเกอร์ดาวรุ่ง

See all articles