สำหรับพื้นที่ห่างไกลไร้ระบบโครงข่ายไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์มักถูกหยิบมาทดแทนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเป็นลำดับต้นๆ แต่อย่างที่รู้กันว่าหากฤดูใดฟ้าครึ้มยาวนานพลังงานทางเลือกดังกล่าวก็แทบจะไร้ค่า E-Dina สตาร์ทอัพด้านพลังงานหมุนเวียน และครีเอทีฟเอเจนซี่แห่ง Wunderman Thompson โคลอมเบีย จึงผุดไอเดียพัฒนาอุปกรณ์ ผลิตพลังงานไฟฟ้าซึ่งเชื่อถือได้มากกว่า สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าสม่ำเสมอแม้เจอวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เพราะพึ่งพาเพียงปัจจัยหาง่ายอย่าง น้ำเกลือ น้ำทะเล หรือแม้กระทั่งปัสสาวะ
อุปกรณ์ที่ว่าคือโคมไฟพกพา ‘WaterLight’ ที่อาศัยหลักการแตกตัวเป็นไอออนของอิเล็กโทรไลต์ในน้ำเกลือซึ่งทำปฏิกิริยากับแมกนีเซียมและแผ่นทองแดงภายในโคมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แม้ว่ากระบวนการให้กำเนิดไฟฟ้าลักษณะนี้ไม่ใช่การค้นพบใหม่ หากความน่าสนใจอยู่ตรงที่ E-Dina สามารถพัฒนาวิธีการรักษาปฏิกิริยาเคมีให้คงอยู่เป็นระยะเวลานานได้อย่างเหลือเชื่อ
โดยการเติมน้ำทะเล น้ำเกลือ หรือปัสสาวะราว 500 มิลลิลิตร โคมไฟสามารถเปร่งแสงสว่างได้ทันทีนานถึง 45 วัน และโคมดวงหนึ่งนั้นมีอายุการใช้งานอยู่ราว ๆ 5,600 ชั่วโมง หรือสองถึงสามปี ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ให้แสงสว่างแล้ว WaterLight ยังเป็นเหมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าย่อขนาด พร้อมรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ ผ่านการเชื่อมต่อพอร์ต USB
ความน่าชื่นชมอีกอย่างคือเรื่องของดีไซน์ที่ผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับงานออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์ ผ่านลวดลายการแกะสลักแบบดั้งเดิม รวมถึงหูหิ้วถักประณีตสวยงามจากฝีมือช่างท้องถิ่นชาว Wayúu ชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งสองทีมพัฒนาตั้งใจเลือกเป็นพื้นที่นำร่องทดลองใช้โคมไฟ เพราะประสบปัญหาเข้าไม่ถึงโครงข่ายไฟฟ้าและมีทรัพยากรมากมายสำหรับการใช้งานเนื่องจากหมู่บ้านรายล้อมด้วยทะเลแคริบเบียน
ก้าวต่อไปทาง E-Dina และ Wunderman Thompson ตั้งเป้าว่าพวกเขาอยากเปิดตัวโคมไฟ WaterLight อย่างเป็นทางการ พร้อมกระจายแสงสว่างสู่ชุมชนที่ขาดแคลนไฟฟ้าทั่วโลก เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและนำเสนอทางเลือกด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ให้เป็นที่รับรู้มากยิ่งขึ้น
อ้างอิง: dezeen, WATERLIGHT
