การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับหรือ ‘โดรน’ ไม่เพียงเข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติภารกิจทางการทหาร แบ่งเบาภาระภาคการเกษตร หรือเปลี่ยนโลกของการสร้างสรรค์ภาพถ่ายและวิดีโอคอนเทนต์ทางอากาศให้เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้นเท่านั้น หากยังสามารถช่วยยกระดับการรักษาพยาบาลและคุณภาพชีวิตอย่างทั่วถึง
เช่นที่ประเทศรวันดาที่ทางรัฐบาลเพิ่งออกมาประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ ‘Zipline’ บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เข้ามาให้บริการจัดส่งเลือดและเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วยโดรนจากเมืองหลวงคิกาลีไปยังโรงพยาบาล 12 แห่งในพื้นที่ห่างไกลทั่วรวันดามานานกว่า 6 ปี โดยโดรนของ Zipline นั้นขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วและแม่นยำในการจัดส่ง เพราะทันทีที่ได้รับคำสั่งจากโรงพยาบาลให้ไปรับเลือด ระบบจะเปิดทำการภายในเวลาแค่ 90 วินาที จากนั้นทีมงานจึงจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับบรรจุ ติดตั้งแบตเตอรี่ ปีกและจมูกของโดรนอย่างฉับไว ก่อนยิงส่งมันขึ้นไปแล่นในอากาศ ซึ่งโดรนทุกตัวจะมีระบบนำทางอัจฉริยะและทำงานอัตโนมัตตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะสว่างหรือมืดค่ำ อีกทั้งไม่ส่งเสียงดังรบกวน พร้อมระบบลงจอดโดยใช้ร่มชูชีพทำให้การส่งมอบปลอดภัย แม่นยำและตรงเวลา ที่สำคัญยังเป็นบริการขนส่งที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าการจัดส่งภาคพื้นดินมากถึง 97%
จนถึงขณะนี้โดรน Zipline บินไปแล้วกว่า 40 ล้านไมล์ในรวันดา เพื่อช่วยผู้ป่วยหลายพันคนให้ได้รับเลือดและเวชภัณฑ์อย่างทันความต้องการ รวมทั้งลดอัตราการเสียชีวิตของมารดาได้กว่า 88% และจากการจับมือร่วมกับรัฐบาลก็ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มสถานนีจัดส่งโดรนแห่งใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนบริการด้านสุขภาพมากขึ้นอีกเป็นสามเท่า
นอกเหนือจากรวันดา ปัจจุบัน Zipline ยังขยายพื้นที่ให้บริการในประเทศญี่ปุ่น เคนยา กานา ไนจีเรีย ไอวอรี่โคสต์ และสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมโรงพยาบาลกว่า 3,000 แห่ง และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเป็น 10,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพื่อมอบบริการขนส่งโลจิสติกส์จากเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม
อ้างอิง: flyzipline, impakter