หลายคนน่าจะรู้จัก Renim Project ในฐานะแบรนด์เสื้อผ้าที่เน้นประเด็นความยั่งยืนหรือ sustainable ผ่านการใช้วัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับจากเวทีแฟชั่นอย่าง Vogue Who’s the next 2018 มาแล้ว
พันธกิจของการนำความยั่งยืนมาสู่แฟชั่นที่จับต้องได้และมีลีลาในการเล่าเรื่องสิ่งแวดล้อมบนเนื้องานของ Renim Project มีให้เราเห็นมาหลายต่อหลายปีแล้ว ซึ่งงานชุดล่าสุดที่ปล่อยออกมาในคอลเลกชัน Fall/Winter 2020 ในชื่อ Dark Forest ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ “คนเลี้ยงช้าง” ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของคนเลี้ยงช้างที่ต้องเผชิญกับปัญหาการทำลายพื้นที่ป่าและการคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ภายใต้ฝีมือการกำกับของ ม.ล.ชาตรีเฉลิม ยุคล ที่ออกฉายในปี 2530
ซึ่งคอลเลกชันนี้ต้องการจะสื่อสารถึงปริมาณช้างในประเทศไทยที่ค่อยๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากการถูกล่าเพื่อเอางา อุบัติเหตุจากการย้ายถิ่นฐานและขาดอาหารและอื่นๆ เพื่อให้ผู้คนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของปัญหาที่อาจไกลตัว แต่ส่งผลกับระบบนิเวศของประเทศเป็นอย่างมาก
อย่างที่เราทราบกันว่าเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากๆ ของ Renim Project คือการผลิตแบบ upcycle ซึ่งเป็นการนำผ้าเก่ามาอยู่ในกระบวนการผลิตจนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นกรรมวิธีหลักในการผลิตหลักของสินค้าแทบจะทุกคอลเลกชันของ Renim Project ซึ่งใน Dark Forest มีส่วนผสมจากทั้งยีนส์เดนิมที่ถูกนำมาผลิตใหม่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และผ้าชนิดอื่นๆ เช่น เสื้อยืด ถุงผ้าที่ผ่านการใช้งานแล้วอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าเป็นการทดลองนำผ้าชนิดอื่นๆ ที่มีความยืดหยุ่นและทนทานมาประยุกต์ในการผลิตเครื่องแต่งกายเป็นครั้งแรกที่ท้าทายและได้ผลที่ดีมาก
ถือเป็นความน่าสนใจในวงการแฟชั่นและสิ่งแวดล้อมที่ใช้เสื้อผ้าเป็นเครื่องมือสะท้อนปัญหาสัตว์คุ้มครองและสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน ซึ่งใครที่สนใจคอลเลกชันนี้ของ Renim Project ทั้งเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม หมวก และสินค้าอื่นๆ ก็สามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ของแบรนด์
ที่มา: www.renimproject.com