สิ่งที่ทำให้เรื่องเล่าธรรมดาดูน่าสนใจ มักเกิดจากการดึงรายละเอียดในเรื่องที่ถูกมองข้ามมาขยาย หรือการใช้ตัวละครที่แปลกออกไปจากความคุ้นเคยบนสถานการณ์ที่เหมือนง่าย ทว่ากลับกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเพื่อหาทางออกที่พลิกความคาดหมาย นี่เป็นสิ่งที่นักเล่าเรื่องทั้งหลายอยากให้เกิดขึ้นสำหรับงานของเขา และหากจัดลำดับการเล่าได้ลงตัวก็จะเชื่อมระหว่างจินตนาการกับความสมจริงของผู้ชมได้อย่างแนบเนียน ทำให้เกิดความประทับใจอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนอย่างที่ Hair Love แอนิเมชันสั้นเรื่องนี้นำมาใช้จนประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัลออสการ์ สาขาหนังแอนิเมชันสั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ต้นปีที่ผ่านมา
Hair Love เล่าเรื่องครอบครัวคนแอฟริกันอเมริกัน ในเช้าหนึ่งที่เป็นวันนัดหมายสำคัญ Zuri ลูกสาวตัวน้อยของคุณพ่อ Stephen รีบตื่นและเตรียมแต่งตัวออกจากบ้าน ทว่าต้องเจอกับปัญหายุ่งยากนั่นคือการจัดการทรงผมของตัวเอง ซึ่งใช่จะทำกันง่ายๆ ยิ่งทำยิ่งเสียเวลา งานนี้คุณพ่อจึงต้องลงมือจัดการให้ แต่แทนที่จะเสร็จเร็วขึ้นกลายเป็นยากกว่าเดิม สำหรับพ่อที่จะต้องทำทรงผมของลูกสาวให้ดูสวยสมใจ ความจริงควรเป็นภาระของคุณแม่ แต่บังเอิญว่าวันนี้แม่ไม่อยู่ ฉากเปิดเรื่องที่ชวนให้ติดตามต่อว่าสงครามระหว่างทรงผมที่ดูมีชีวิตและไม่ยอมเชื่อฟังใครของคุณลูกสาวกับคุณพ่อจะจบลงอย่างไร โดยแอบทิ้งคำถามให้สงสัยไปในเวลาเดียวกันว่าแล้วคุณแม่ล่ะไปไหน ถึงอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ความยุ่งยากนั้นก็สำเร็จลงได้ ก่อนที่จะพาผู้ชมไปสู่บทสรุปของเรื่องที่ค้างคาใจ ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างความทุกข์โศกกับรอยยิ้ม ความโดดเดี่ยวกับความอบอุ่นของครอบครัว ไม่เพียงเท่านั้นเรื่องเล่าสั้นๆ ของเส้นผมลูกสาวในเช้าวันหนึ่งนี้ยังสะท้อนปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัยปนความรู้สึกอ่อนไหว แถมยังซ่อนคำถามซ้อนกันได้อีกว่าหากวันหนึ่งไม่มีแม่ คุณพ่อจะดูแลลูกสาวได้ไหม
ก่อนหน้านั้นโครงการหนังแอนิเมชัน Hair Love ได้ถูกเสนอลงในเว็บไซต์ Kick Starter เพื่อขอระดมทุนนำมาสร้าง แล้วได้รับการตอบรับจากสังคมเป็นเงินจำนวน 3 แสนดอล่าร์ ซึ่งมากกว่าที่ขอไว้มากมาย ผลงานการกำกับฯของ Matthew A. Cherry ด้วยการออกแบบตัวละครพร้อมเรื่องย่อ ประกอบกับแนวคิดหลักว่าด้วยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกสาว ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องทรงผม แต่ด้วยธรรมชาติความเป็นเพศหญิงที่คุณพ่อส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยนักกับการดูแล ทรงผมกับการทำเคมีบำบัดของผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งหมดรวบไว้ที่เดียวกันโดนใจผู้คนจนได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
แล้วเมื่อหนังได้รางวัลออสการ์ แน่นอนว่าตัวละครที่ถูกออกแบบมาก็ได้ไปต่อโดยการนำไปสร้างเป็นละครในทีวีซีรีย์ชื่อชุด Young Love ในช่อง HBO MAX การใช้ตัวละครเดิมช่วยลดต้นทุนในการออกแบบสร้างแล้วดึงไปใช้เล่าใหม่ได้เลยเพราะผู้ชมรู้จักดีแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่หนังประสบความสำเร็จ ก็เพียงเรื่องจัดทรงผมสุดจะธรรมดาแต่ขยายมุมมองไปถึงการเยียวยา ความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจในชีวิตครอบครัวได้อย่างเหลือเชื่อ
อ้างอิง: www.kickstarter.com, www.facebook.com, www.matthewacherry.com