Moving Dunes เปลี่ยนถนนธรรมดาให้เป็นพื้นทรายพิศวง สร้างปฏิสัมพันธ์ชวนคนเข้าชมศิลปะในพิพิธภัณฑ์

Anamorphosis เป็นศิลปะสร้างสรรค์ที่ใช้รูปทรงของเลขาคณิตมาล้อเล่นกับสายตาของผู้ชมจนเกิดภาพลวงตาขึ้น ด้วยวิธีสร้างองค์ประกอบของวัตถุ การจัดวางตำแหน่งประติมากรรม เว้นระยะห่างกับสายตาผู้ชมจนเกิดมิติมุมมองให้เสมือนจริงทั้งๆ ที่ภาพปรากฏนั้นไม่มีอยู่ ถ้าจะบอกว่าแนวคิดนี้มีรากเดียวกับศิลปะแนว cubism ก็คงไม่ผิดอะไร งานศิลปะจัดแสดง Moving Dunes ที่เห็นนี้ก็กำลังทำหน้าที่ของตัวเองได้ลงตัว ผลงานของ NÓS สตูดิโอสถาปัตย์และออกแบบสัญชาติแคนนาเดียน จัดทำขึ้นเนื่องในงานแสดงบนหัวข้อนิทรรศการที่พาดพิงไปถึงศิลปินปรมาจารย์ cubism อย่างปิกาโซ From Africa to the Americas: Face-to-Face Picasso, Past and Present หรืออีกนัยหนึ่งก็คืองานศิลปะแนว Anamorphosis นี้กำลังท้าทาย cubism ที่นับวันก็จืดชืดลงไปตามกาลเวลา

ทุกปีพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มอนทรีออล MBAM: Montreal Museum of Fine Arts ประเทศแคนนาดา จะเปิดให้เหล่าศิลปินหรือสตูดิโอออกแบบทั้งหลายเสนองานประกวดเพื่อนำมาจัดแสดงบนถนนด้านข้างพิพิธภัณฑ์ The Avenue de Musée มีกติกาว่าต้องการสร้างประสบการณ์ทางศิลปะให้ชุมชนภายในงบประมาณจำกัด ผลงานของสตูดิโอ NÓS ที่ส่งประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยการวาดเส้นโค้ง แบ่งน้ำหนักเงาลงบนพื้นถนนจากการวาดเส้นสองมิติ กับวัตถุทรงกลมตามจุดต่างๆ พื้นที่แบนราบก็กลายเป็นลูกคลื่นบนทะเลทรายไปในพริบตา โดยทีมสร้างตั้งใจว่าต่อให้ถ่ายภาพออกมาแล้วดูตื่นตาแค่ไหนก็จะไม่มีทางได้อารมณ์เหมือนพาตัวเองเข้าไปยืนในพื้นที่นั้นจริง

นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีได้รับความสนใจแก่ชุมชนและผู้สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างมาก  และนี่ไม่เพียงจะเป็นการกระตุ้นให้คนสนใจเข้าชมงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ แต่กลายเป็นการแปลงพื้นที่สุดแสนธรรมดาให้กลายเป็นสวนสนุก เป็นมุมถ่ายรูปแปลกตาให้กับเด็กๆ และครอบครัว สร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับสังคมไปด้วย จะว่าไปแล้ว…งานอินสตอลเลชั่นหรือศิลปะจัดแสดงนี้คงจะจืดไปทันตาหากไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนดู

Moving Dunes ไม่เพียงเป็นการสะท้อนความจริงเกี่ยวกับรูปทรงเลขาคณิตที่ซ่อนอยู่ในจิตสำนึกของทุกคนเท่านั้น แต่ยังจัดเป็นงานศิลปะบนถนนขนาดใหญ่ที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนคือแทนที่จะเดินผ่านเหมือนถนนทั่วไป กลายเป็นว่ากำลังเดินบนทะเลทรายไปได้ และมีผลด้านจิตวิทยาทางอ้อมให้รู้สึกรักในงานศิลปะ เดินเข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่อ วิธีล้อเล่นกับมุมมองของผู้คนแบบนี้อาจจะน้อยไปสักหน่อยสำหรับบ้านเรา ที่สำคัญคือการหว่านเมล็ดคิดให้งอกงามในจิตใจผู้คนเพื่อขับเคลื่อนสังคมได้ในอนาคต

อ้างอิง: www.facebook.com/nosarchitectes, selectedinspiration.com, www.instagram.com

วรัญญู อุดมกาญจนานนท์

Art may not be the only way to brighten the world, but it is essential to create a beautiful life. รักงานสร้างสรรค์อิสระ...งานเขียนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวหนังสือคือความคิดที่เชื่อมโลกกับเราไว้ด้วยกัน

See all articles