เวลาที่เราเดินผ่านขอทานหรือคนไร้บ้านที่อยู่ตามข้างถนน เรามักจะช่วยเหลือโดยการหยิบยื่นเงินให้หรือไม่ก็นำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วไปให้ ซึ่งถ้าลองคิดกันดีๆ การช่วยเหลือเช่นนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น เพราะเงินหรือสิ่งของที่พวกเขาได้รับนั้นช่วยแค่ให้ใช้ชีวิตอยู่รอดไปวันๆเท่านั้น สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ยังคงต้องอยู่ในสภาพขอทานและคนไร้บ้านเช่นเดิม
ในประเทศอังกฤษ จำนวนคนไร้บ้านนั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีคนไร้บ้านมากกว่า 4,000 คนที่ต้องนอนอยู่ข้างถนนทุกคืน ซึ่งก็ไม่ต่างจากร้านกาแฟที่ผุดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความนิยมการดื่มกาแฟ โดยเฉลี่ยชาวลอนดอนดื่มกาแฟวันละ 2 แก้วต่อวัน และเมื่อมีร้านกาแฟก็ย่อมต้องมีการจ้างงานตามมา แต่การจัดหาจ้างงานคนที่มีทักษะด้านการชงกาแฟหรือบาริสต้านั้นไม่ง่ายเท่าไรนัก เนื่องจากการเป็นบาริสต้าที่ดีนั้นนั้นต้องอาศัยทักษะ ความมุ่งมั่น และการฝึกฝนที่ถูกต้อง
องค์กรเพื่อสังคม Change Please มองเห็นความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนความนิยมของการดื่มกาแฟมาเป็นทางออกให้กับคนไร้บ้าน ให้มีงาน มีเงิน และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ด้วยการจัดทำโปรเจ็กต์ Change Please เพื่อฝึกสอนการทำงานเป็นบาริสต้าให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งให้ที่พักพิง ดูแลสภาพจิตใจ เปิดบัญชีธนาคารให้ พร้อมกับการจ่ายค่าแรงตามอัตราจ้างของลอนดอนให้อีกด้วย
เริ่มต้นจากการกู้เงินจาก Big Issue องค์กรผลิตนิตยสาร เพื่อนำเงินมาซื้อรถขายกาแฟบริเวณ Covent Garden ใจกลางลอนดอนเมื่อปี 2015 ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปเพียง 1 สัปดาห์ก็ขายกาแฟได้ถึง 1,000 แก้ว และในระยะเวลา 4 เดือน ขายกาแฟได้ทั้งหมด 78,000 แก้ว ส่งผลให้ Change Please เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งขายกาแฟได้มากเท่าไร องค์กรฯ ก็สามารถซื้อรถกาแฟได้มากขึ้นเท่านั้น และเมื่อมีรถกาแฟมาก ก็สามารถช่วยเหลือคนไร้บ้านได้มากขึ้นเช่นกัน ปัจจุบัน Change Please มีรถขายกาแฟเคลื่อนที่ตามเมืองต่างๆ มากมาย อาทิ Manchester, Cambridge, Coventry รวมทั้งมีกาแฟผงที่ผลิตในแบรนด์ Change Please วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย
นับว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้านได้ดีทีเดียว อีกทั้งยังเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ยั่งยืนที่สามารถต่อยอดไปได้ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติเลยทีเดียว
อ้างอิง: Change Please, Eco and Beyond