Nobody is Normal: เด็กๆ โปรดรับรู้ไว้ว่าความแตกต่างไม่เคยทำใครให้โดดเดี่ยว

อะไรคือความเป็นปรกติกันแน่…ทุกคนคงเคยพบประสบการณ์โดนล้อเลียน บูลลี่ กันมาแล้วมากบ้างน้อยบ้าง และหากย้อนรำลึกได้ครั้งแรกที่เจอคงจะในโรงเรียนสมัยที่เป็นเด็ก ไม่แปลกเพราะโรงเรียนเป็นพื้นที่แรกๆ ที่ได้รวมกลุ่มกันในสังคม เป็นที่ที่เราได้เห็นถึงความแตกต่างของเพื่อนแต่ละคน และบางคนก็โดนล้อเลียนดูถูกรุนแรงกว่าคนอื่น เพราะมีลักษณะเฉพาะตัวบางอย่างที่จับสังเกตได้ง่าย เช่น ผมเผ้า, สีผิว, รูปหน้า, หรือความป่วยไข้ตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้ต้องอับอายและเกิดคำถามกับความเป็นตัวเอง บางทีก็เก็บความรู้สึกนี้ไปสร้างตัวตนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จนกลายเป็นคนปิดกั้นตัวเองหรือมองโลกแง่ร้าย เพียงเพราะ รู้สึกว่าผิดปรกติ ทั้งๆ ที่จริงความเป็นปรกติเป็นเพียงค่านิยมที่ถูกสมมุติขึ้นเท่านั้น

มูลนิธิการกุศล Childline UK ซึ่งมีบทบาทในการคุ้มครองสิทธิเด็กในหลากหลายรูปแบบ เช่น ดูแลเด็กเร่ร่อน เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ เปิดสายด่วนให้คำปรึกษา รวมถึงจัดการศึกษาเด็กและครอบครัวเพื่อคุณภาพชีวิตเด็กที่ดีกว่า ร่วมกับ เอเยนซี่ The Gate จัดทำสื่อโฆษณาในรูปของสต๊อปโมชั่น แอนิเมชั่น ส่งสาระสำคัญให้เด็กๆ ได้รู้ว่าในสังคมนี้ไม่มีคำว่าปรกติอยู่จริงๆ หรอก ในชื่อชุดว่า ‘Nobody is Normal’ ด้วยเรื่องเล่าที่เรียบง่าย ตัวการ์ตูนที่ดูแปลกตา ทว่าเป็นกันเอง แฝงความวิตกกังวลไว้ในแววตาซึ่งกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง ประกอบบทเพลง Creep ของ Radio Head ช่วยสะท้อนอารมณ์การหลีกหนีไปจากสังคม และประโยคจบของหนังที่ว่า “No matter how you feel inside, you’re not alone.” เพราะทุกคนไม่จำเป็นต้องกลัวมุมมองจากสังคม ไม่ว่าภายในจิตใจเราจะรู้สึกแปลกแตกต่างแค่ไหน เราไม่ใช่คนเดียวที่เป็นเช่นนั้น ข้อเท็จจริงคือโลกนี้เต็มไปด้วยความแปลกแตกต่าง นี่คือการฉีดวัคซีนกำลังใจให้เด็กทุกคนที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวให้เข้มแข็งขึ้น ในเวลาเดียวกันก็เป็นการปรามเด็กทุกคนให้หยุดดูถูกเพื่อนโดยคิดว่านั่นคือความสนุกสนาน

Lucas Peon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสาร CCO ของ The Gate เชื่อว่าการเล่าเรื่องแนวดราม่าเน้นอารมณ์ตัวละครนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจสังคมได้ดี และทีมถ่ายทำของ Rowdy, Blink มี John Osborne, Rickie Marsden, Sam Whatley เป็นครีเอทีฟ โดยผู้กำกับฯ Catherine Prowse ร่วมกันเลือกเฟ้นพิถีพิถันกับงานสร้างสรรค์เริ่มจากการออกแบบ, ปั้นหุ่น, ฉาก, องค์ประกอบภาพทั้งหมด ตีความสอดรับกับบทเพลง Creep ที่สะท้อนความรู้สึกแปลกแยกในจิตใจคน

จากการวิจัยของ Childline พบว่าในช่วงเวลาของการเกิดโรคระบาด โควิด-19 นี้ ความวิตกกังวลและอัตราการป่วยด้านจิตใจของผู้คนเพิ่มมากขึ้นด้วย ในหนึ่งนาทีกว่าของหนังที่บางคนที่ชอบเรื่องเล่าอาจรู้สึกว่าน้อย แต่สำหรับเนื้อหาภายในมากเพียงพอที่จะพูดกับเด็กและสังคมโดยรวมให้กลับมุมมองว่า เราล้วนแต่ไม่มีใครปรกติเลยสักคน ไม่เพียงแค่รูปกายภายนอกเท่านั้นแต่รวมถึงสภาพจิตด้านในที่ละเอียดซับซ้อนด้วย การพยายามผลักคนอื่นให้แตกต่างนั่นแหละที่ผิดปรกติ การยอมรับในความแตกต่างต่างหากที่จะพาสังคมเดินไปด้วยกันอย่างเป็นมิตร มั่นคง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

อ้างอิง: www.creativereview.co.uk, learning.nspcc.org.uk/services-children-families,

วรัญญู อุดมกาญจนานนท์

Art may not be the only way to brighten the world, but it is essential to create a beautiful life. รักงานสร้างสรรค์อิสระ...งานเขียนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวหนังสือคือความคิดที่เชื่อมโลกกับเราไว้ด้วยกัน

See all articles