Nestlé for Healthier Kids เปลี่ยนรถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับเด็กเป็นรถเรียนรู้โภชนาการทางอาหารแสนสนุก

โภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาสุขภาพของเด็ก Nestlé ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จึงมีเป้าหมายให้เด็กๆ 50 ล้านคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นภายในปี 2573 จึงสร้างสรรค์แคมเปญ Nestlé for Healthier Kids ให้ความรู้ด้านโภชนาการให้กับทั้งพ่อแม่และเด็ก ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการตลาดและภาพลักษณ์ทั่วโลก

ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรส มีจำนวนเด็กที่เข้าข่ายโรคอ้วน 2 ใน 3 ของประชากรเด็กทั้งโลก การปรับพฤติกรรมการบริโภคให้พวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย จะทำอย่างไรให้เด็กๆ เติบโตอย่างสุขภาพดีด้วยโภชนาการที่ดี? ซึ่งเนสท์เล่ได้สำรวจอินไซท์พฤติกรรมของพ่อแม่และเด็กว่า หากเด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารกับพ่อแม่ เรียนรู้คุณค่าโภชนาการจากการทำอาหารร่วมกันกับพ่อแม่ ตั้งแต่การไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตจะทำให้พวกเขาปรับใช้นิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น

เนสท์เล่จึงร่วมกับโรงเรียนประถมและคาร์ฟูร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นในนำ โดยเนสท์เล่จะจัดโรดโชว์ให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการแก่เด็กๆ จากนั้นเมื่อเด็กไปคาร์ฟูร์กับพ่อแม่ คาร์ฟูร์ก็จัดเตรียม Nutrition Cart รถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับเด็กที่ดีไซน์พิเศษ มีกระเป๋าแบ่งเป็นช่อง 4 ช่อง ช่องละสี แยกออกเป็นสีเขียวใส่ผักผลไม้, สีชมพูใส่อาหารประเภทธัญพืช, สีฟ้าใส่อาหารที่ให้โปรตีน, และสีส้มใส่ผลิตภัณฑ์จากนม พร้อมแอปพลิเคชั่น Wayfinder ให้เด็กๆ ได้ตามหาผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ที่ให้ครบตรงตามช่องสีที่แบ่ง ซึ่งทำให้เด็กๆ สนุกพร้อมเรียนรู้คุณค่าโภชนาการผ่านเกมและจากการพูดคุยกับพ่อแม่ เมื่อกลับบ้าน เด็กๆ ก็จะได้มีส่วนร่วมในการช่วยทำอาหารกับแม่ และได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนคุณค่าโภชนาการและคุณประโยชน์ที่ตัวเองเป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำ ซึ่งงานนี้มีกว่า 25,000 ครอบครัวเข้าร่วม ผักผลไม้ถูกจัดจำหน่ายไปกว่า 9 ตัน

การสอนให้เด็กรู้เรื่องโภชนาการอาหาร พร้อมเข้าใจคุณค่าของสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงต้องหาวิธีการกระตุ้นความสนใจของเด็กๆ ด้วยการสร้างสรรค์ผ่านการลงมือทำ ชวนให้เด็กมีส่วนร่วมเป็นผู้ช่วยตัวน้อยในครัว เพื่อสร้างบรรยากาศห้องครัวสุขสันต์ ช่วยดึงดูดความสนใจให้เด็กรู้สึกสนุกสนานในการเรียนรู้สิ่งใหม่ เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน

 

อ้างอิง: Ads of The World, Nestle,

จงจิตร สมิทธิ์

Head of Creative บริษัท Far East Fame Line DDB มีความเชื่อว่างานโฆษณาที่ดีใช้แค่ Creativity ไม่พอ แต่ต้องใช้ Humankind Creativity ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตสังคมและโลกไปในทางที่ดีขึ้นด้วย

See all articles